บทนำ: Market Maker คืออะไร และทำไมถึงสำคัญในตลาดการเงิน?
ในวงการลงทุนที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว บทบาทหนึ่งที่มักไม่ค่อยได้รับความสนใจแต่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดการเงินคือผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือที่รู้จักกันในชื่อ Market Maker สถาบันหรือบุคคลเหล่านี้รับผิดชอบในการเสนอราคาซื้อและราคาขายอย่างสม่ำเสมอสำหรับหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงินบางประเภท พวกเขาเปรียบเสมือนชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบตลาดเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และให้นักลงทุนทำการซื้อขายได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิด

หลักการพื้นฐานของผู้ดูแลสภาพคล่องคือการสร้างสภาพคล่องให้กับตลาด ซึ่งหมายถึงความง่ายดายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้เร็วและในราคาที่สมเหตุสมผล โดยไม่ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงมากเกินไป หากปราศจากผู้ดูแลสภาพคล่อง ตลาดอาจพบปัญหาการซื้อขายที่ลำบาก ราคาผันผวนรุนแรง และช่องว่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายที่กว้างขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุนและลดความน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนทั่วไป

ผู้ดูแลสภาพคล่องไม่ได้เพียงเชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ขายเท่านั้น แต่ยังช่วยกำหนดราคาที่แท้จริงของสินทรัพย์ ทำให้ตลาดโปร่งใสและยุติธรรมมากขึ้น บทบาทนี้ยิ่งเด่นชัดในตลาดการเงินไทย ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดอนุพันธ์อย่าง TFEX หรือแม้แต่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่นักลงทุนรายย่อยเริ่มสนใจผลิตภัณฑ์เหล่านี้มากกว่าเดิม

หน้าที่หลักและบทบาทสำคัญของ Market Maker
ผู้ดูแลสภาพคล่องมีหน้าที่ที่ซับซ้อนแต่จำเป็นในการรักษาความมั่นคงและประสิทธิภาพของตลาดการเงิน เราสามารถแบ่งบทบาทหลักของพวกเขาออกเป็นส่วนๆ ได้ดังนี้ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
การสร้างสภาพคล่องและลดส่วนต่างราคา
หัวใจของผู้ดูแลสภาพคล่องคือการนำสภาพคล่องมาสู่ตลาด โดยการวางคำสั่งซื้อและคำสั่งขายอย่างต่อเนื่องสำหรับสินทรัพย์ที่รับผิดชอบ สิ่งนี้รับประกันว่ามักจะมีคู่ค้าพร้อมเสมอสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำธุรกรรม ทำให้การเข้าและออกจากการลงทุนเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
นอกจากนั้น พวกเขายังช่วยลดช่องว่างระหว่างราคาซื้อสูงสุดกับราคาขายต่ำสุด ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการซื้อขาย เมื่อผู้ดูแลสภาพคล่องแข่งขันกันเสนอราคาที่ใกล้เคียง ช่องว่างนี้ก็จะแคบลง ส่งผลให้ต้นทุนสำหรับนักลงทุนลดน้อย และตลาดโดยรวมทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดคึกคัก
การอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย
ผู้ดูแลสภาพคล่องทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายเข้าด้วยกัน ทำให้การซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือสถาบันขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องรอคู่ค้าจากตรงข้าม พวกเขายอมรับความเสี่ยงจากการถือสินทรัพย์ชั่วคราว เพื่อให้ธุรกรรมเกิดขึ้นทันที
การมีผู้ดูแลสภาพคล่องที่แข็งแกร่งช่วยให้ตลาดรองรับปริมาณการซื้อขายสูงได้โดยไม่สะดุด สร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนที่เข้าร่วมตลาด โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวสารสำคัญกระทบตลาด
การค้นพบราคาที่มีประสิทธิภาพ
การเสนอราคาอย่างต่อเนื่องช่วยให้เกิดการกำหนดราคาที่ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพสำหรับสินทรัพย์ ราคาในตลาดจึงสะท้อนอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริงในขณะนั้น ผู้ดูแลสภาพคล่องปรับราคาของตนตามข้อมูลใหม่และการเปลี่ยนแปลงของตลาด ทำให้ราคาอัปเดตและใกล้เคียงมูลค่าจริงมากขึ้น
ผลลัพธ์นี้ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ สร้างความโปร่งใสให้กับตลาดโดยรวม และลดโอกาสเกิดการบิดเบือนราคาจากการขาดข้อมูล
Market Maker ในตลาดการเงินประเภทต่างๆ ของไทยและทั่วโลก
ผู้ดูแลสภาพคล่องมีบทบาทในหลากหลายตลาด โดยเฉพาะตลาดที่มีสภาพคล่องจำกัดหรือผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน ซึ่งช่วยให้ตลาดเหล่านั้นทำงานได้ดีขึ้น
Market Maker ในตลาดหุ้นและตราสารอนุพันธ์ (TFEX, DW)
ในประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ TFEX มีระบบผู้ดูแลสภาพคล่องเพื่อเสริมสภาพคล่องและประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์บางอย่าง โดยเฉพาะตราสารอนุพันธ์และ DW ที่มักมีสภาพคล่องน้อยกว่าหุ้นทั่วไป ผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ชัดเจน เช่น การเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง รักษาช่องว่างราคาไม่เกินกำหนด และมีปริมาณการเสนอที่เพียงพอ
สำหรับ DW ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ซับซ้อนและมีอายุจำกัด ผู้ดูแลสภาพคล่องมีความสำคัญมากในการทำให้การซื้อขายเป็นไปได้ พวกเขาออกและรับซื้อคืน DW จากนักลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถขายได้แม้ไม่มีผู้ซื้ออื่น TFEX ยังกำหนดให้มีผู้ดูแลสภาพคล่องสำหรับฟิวเจอร์สและออปชั่น เพื่อให้ตลาดไหลลื่นและตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้
Market Maker ในตลาด Forex
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดในโลก และทำงานแตกต่างจากตลาดหุ้นที่มีศูนย์กลาง ผู้ดูแลสภาพคล่องใน Forex มักเป็นธนาคารใหญ่หรือสถาบันที่ให้บริการโบรกเกอร์และลูกค้ารายย่อย บางโบรกเกอร์ก็ทำหน้าที่นี้โดยตรง
ในตลาดแบบ OTC ที่ไม่มีศูนย์กลางชัดเจน ผู้ดูแลสภาพคล่องเสนอราคาสกุลเงินโดยตรงและรับความเสี่ยงจากการถือสกุลเงิน พวกเขาสร้างรายได้จากช่องว่างราคาที่กำหนด ซึ่งแตกต่างกันตามโบรกเกอร์ การมีผู้ดูแลสภาพคล่องช่วยให้นักลงทุนแลกเปลี่ยนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ด้วยสภาพคล่องสูงและช่องว่างราคาที่แข่งขัน โดยเฉพาะในคู่สกุลเงินหลักอย่าง USD/THB ที่นักลงทุนไทยนิยม
กฎระเบียบและข้อกำหนดสำหรับ Market Maker ในประเทศไทย (กลต. และ TFEX)
เพื่อให้ผู้ดูแลสภาพคล่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และ TFEX ได้วางกฎระเบียบที่เข้มงวดสำหรับผู้ที่เข้ามาดำเนินงานในตลาดไทย
ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดทุน ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ดูแลสภาพคล่อง โดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง DW พวกเขาต้องได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เช่น การมีเงินทุนเพียงพอ ระบบทำงานที่มีประสิทธิภาพ และจรรยาบรรณที่เข้มงวด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจกระทบนักลงทุน
สำหรับ TFEX ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์หลัก ก็มีกฎเฉพาะสำหรับผู้ดูแลสภาพคล่องในฟิวเจอร์สและออปชั่น พวกเขาต้องเสนอราคาอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่กำหนดและรักษาช่องว่างราคาในกรอบที่ยอมรับได้ TFEX ประเมินผลการทำงานเป็นประจำ หากไม่ผ่านเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนสถานะ การกำกับดูแลเหล่านี้ช่วยให้ตลาดไทยมีสภาพคล่องเพียงพอและยุติธรรมสำหรับทุกคน สำนักงาน ก.ล.ต. จึงมีบทบาทสำคัญในการรักษามาตรฐาน
ความเสี่ยงและผลตอบแทนของ Market Maker
การเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน แต่ก็เปิดโอกาสให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ
ความเสี่ยงที่ Market Maker ต้องเผชิญ
ผู้ดูแลสภาพคล่องต้องรับมือกับความเสี่ยงหลักๆ ดังนี้
- ความเสี่ยงด้านสินค้าคงคลัง: พวกเขาต้องถือสินทรัพย์เพื่อตอบสนองคำสั่ง หากราคาผันผวนรุนแรงในทางลบ อาจขาดทุนหนัก เช่น ซื้อหุ้นจำนวนมากแต่ราคาร่วงทันที
- ความเสี่ยงจากข้อมูลไม่สมมาตร: อาจถูกนักลงทุนที่มีข้อมูลดีกว่าหลอกใช้ ทำให้ซื้อแพงหรือขายถูก ส่งผลให้ขาดทุน
- ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ: อาศัยระบบเทคโนโลยีซับซ้อน หากล้มเหลวอาจเสียหายทางการเงินมหาศาล
การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นกุญแจสำคัญ พวกเขาใช้การป้องกันความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์ตรงข้าม ระบบคอมพิวเตอร์รวดเร็ว อัลกอริทึมปรับราคาแบบเรียลไทม์ และกำหนดขีดจำกัดความเสี่ยง โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนสูง
ผลตอบแทนและรายได้ของ Market Maker
แม้มีความเสี่ยง แต่ผู้ดูแลสภาพคล่องก็สามารถสร้างรายได้ดีได้ แหล่งรายได้หลักคือ
- ช่องว่างราคา: ซื้อที่ราคาซื้อและขายที่ราคาขายที่สูงกว่า ช่องว่างนี้คือกำไรจากการอำนวยความสะดวก
- ปริมาณการซื้อขาย: กำไรเล็กน้อยต่อธุรกรรม ยิ่งปริมาณมาก รายได้ยิ่งสูง
- กลยุทธ์อื่นๆ: เช่น การเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาตลาดต่างๆ หรือใช้ความผันผวนเพื่อกำไรเพิ่ม บางรายยังได้จากค่าธรรมเนียมกู้ยืมหลักทรัพย์
รายได้เหล่านี้ทำให้บทบาทนี้คุ้มค่ากับความท้าทาย โดยเฉพาะในตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
อาชีพ Market Maker: เส้นทาง ทักษะ และโอกาสในตลาดการเงินไทย
สำหรับผู้ที่สนใจอาชีพในวงการการเงิน การเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องเป็นทางเลือกที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย ต้องการทักษะหลากหลายและความสามารถในการรับมือความกดดัน
ในไทย ผู้ดูแลสภาพคล่องมักทำงานในธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทจัดการกองทุน โดยเฉพาะแผนกอนุพันธ์หรือตราสารหนี้ หน้าที่ประจำวันรวมถึงติดตามตลาด ปรับราคา จัดการความเสี่ยงพอร์ต และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาโอกาสกำไร
ทักษะที่จำเป็น ได้แก่
- การตัดสินใจรวดเร็ว: ตลาดเคลื่อนไหวไว ต้องประเมินและตัดสินใจในเสี้ยววินาที
- บริหารความเสี่ยง: จัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความรู้ตลาด: เข้าใจผลิตภัณฑ์ กลไกตลาด และปัจจัยราคา
- วิเคราะห์เชิงปริมาณ: ใช้เครื่องมือและแบบจำลองคณิตศาสตร์
- เขียนโปรแกรม: เช่น Python สำหรับอัลกอริทึมซื้อขายอัตโนมัติ
- จิตใจเข้มแข็ง: รับมือความเครียดและความผันผวน
เส้นทางอาชีพเริ่มจากนักเทรดหรือนักวิเคราะห์รุ่นเยาว์ แล้วก้าวสู่ระดับสูงกว่า โอกาสในตลาดไทยยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะกับการเติบโตของตลาดอนุพันธ์ รายได้สูง รวมโบนัสตามผลงานที่อาจมากกว่าเงินเดือนฐานหลายเท่า ทำให้เป็นอาชีพที่น่าจับตามอง
บทสรุป: Market Maker ผู้ปิดทองหลังพระแห่งตลาดทุนยุคใหม่
สรุปแล้ว ผู้ดูแลสภาพคล่องคือส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในตลาดทุนสมัยใหม่ พวกเขาเป็นผู้ทำงานเบื้องหลังที่สร้างสภาพคล่อง รักษาประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้การซื้อขายสำหรับนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงในไทย
ตั้งแต่การเสนอราคาอย่างต่อเนื่องไปจนถึงรับความเสี่ยงสินค้าคงคลัง พวกเขาลดช่องว่างราคา ทำให้เข้าถึงตลาดง่ายขึ้น และช่วยกำหนดราคายุติธรรม แม้แสวงหากำไรจากช่องว่าง แต่ประโยชน์ที่นำมาสู่ตลาดและนักลงทุนนั้นชัดเจน
ในยุคที่เทคโนโลยีการเงินและการซื้อขายอัลกอริทึมพัฒนา บทบาทของพวกเขายังคงสำคัญ แต่ต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง พวกเขาช่วยให้ตลาดการเงินมีชีวิตชีวา ยุติธรรม และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในบริบทของตลาดเกิดใหม่อย่างไทยที่กำลังขยายตัว
Market Maker กับ Broker ต่างกันอย่างไรในแง่การทำงานและบทบาทในตลาดการเงินไทย?
ผู้ดูแลสภาพคล่องมีหน้าที่เสนอราคาซื้อและขายอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด โดยรับความเสี่ยงจากการถือสินทรัพย์และทำกำไรจากช่องว่างราคา ในขณะที่นายหน้าเป็นตัวกลางจับคู่คำสั่งซื้อขายของนักลงทุน และได้รายได้จากค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียม โดยไม่ถือสินทรัพย์เอง ในตลาดไทย บางโบรกเกอร์อาจ兼บทบาทผู้ดูแลสภาพคล่องสำหรับผลิตภัณฑ์อย่าง DW หรือใน Forex เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การจะเป็น Market Maker ที่ได้รับการรับรองจาก กลต. หรือ TFEX มีคุณสมบัติและขั้นตอนอย่างไรบ้างในประเทศไทย?
การเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในไทยต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานอย่าง ก.ล.ต. สำหรับ DW หรือ TFEX สำหรับอนุพันธ์ คุณสมบัติหลัก ได้แก่ เป็นสถาบันการเงินหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต มีเงินทุนเพียงพอ ระบบงานและบุคลากรเชี่ยวชาญในการจัดการความเสี่ยงและซื้อขาย รวมถึงความสามารถในการเสนอราคาและรักษาสภาพคล่องตามข้อกำหนด ขั้นตอนรวมถึงยื่นขออนุมัติ แสดงความพร้อมระบบและบุคลากร และปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจในความน่าเชื่อถือ
Market Maker ในตลาด Forex มีความแตกต่างหรือความเสี่ยงเฉพาะตัวอย่างไร เมื่อเทียบกับ Market Maker ในตลาดหลักทรัพย์หรืออนุพันธ์ของไทย?
ผู้ดูแลสภาพคล่องใน Forex มักเป็นธนาคารใหญ่หรือโบรกเกอร์ในตลาด OTC ที่ไม่มีศูนย์กลาง พวกเขากำหนดราคาและรับความเสี่ยงจากความผันผวนค่าเงินโดยตรง ความเสี่ยงเฉพาะคือการจัดการความผันผวน 24 ชั่วโมงและความเสี่ยงเครดิตคู่ค้า ต่างจากในตลาดหลักทรัพย์หรืออนุพันธ์ไทยอย่าง TFEX ที่อยู่ภายใต้กฎเข้มงวดของตลาดศูนย์กลาง มีข้อกำหนดสภาพคล่องและช่องว่างราคาชัดเจนกว่า เพื่อลดความไม่แน่นอน
นักลงทุนรายย่อยควรพิจารณาอะไรบ้าง เมื่อซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่เป็น Market Maker และมีผลกระทบอย่างไรต่อราคาที่เราเห็น?
เมื่อซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง นักลงทุนรายย่อยควรคำนึงถึง ช่องว่างราคาที่อาจสูงขึ้นซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ความโปร่งใสในการเสนอราคาและดำเนินคำสั่ง และความขัดแย้งผลประโยชน์เพราะโบรกเกอร์อาจมีสถานะตรงข้ามลูกค้า จึงควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลดี ราคาที่เห็นจะกำหนดโดยผู้ดูแลสภาพคล่อง ซึ่งอาจต่างจากตลาดอื่นเล็กน้อยแต่โดยทั่วไปสะท้อนราคาจริง เพื่อให้การลงทุนปลอดภัย
Market Maker มีบทบาทสำคัญต่อสภาพคล่องของ DW (Derivative Warrant) ในตลาดหุ้นไทยอย่างไร และทำไมถึงจำเป็น?
ผู้ดูแลสภาพคล่องสำคัญมากต่อสภาพคล่องของ DW ในตลาดหุ้นไทย เพราะ DW ซับซ้อนและมีอายุจำกัด หากไม่มี พวกเขาอาจซื้อขายยากเนื่องจากขาดคู่ค้า ผู้ดูแลสภาพคล่องเสนอราคาซื้อขายต่อเนื่อง รับประกันการเข้า-ออกตำแหน่งได้เสมอ ลดความเสี่ยงสภาพคล่องและทำให้ DW น่าลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่น
อาชีพ Market Maker ในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตและเงินเดือนเป็นอย่างไร? ต้องมีทักษะอะไรบ้าง?
อาชีพผู้ดูแลสภาพคล่องในไทยมีโอกาสเติบโตดี โดยเฉพาะในสถาบันใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนและอนุพันธ์ เงินเดือนสูง พร้อมโบนัสตามผลงานที่เพิ่มรายได้มาก ทักษะจำเป็น ได้แก่ ความรู้ตลาดเชิงลึก การตัดสินใจรวดเร็วภายใต้ความกดดัน การบริหารความเสี่ยง วิเคราะห์เชิงปริมาณ และการเขียนโปรแกรมอย่าง Python เพื่อกลยุทธ์ซื้อขาย ซึ่งช่วยให้ก้าวหน้าในอาชีพนี้
กฎเกณฑ์ของ กลต. ในการกำกับดูแล Market Maker มีอะไรบ้างที่นักลงทุนและผู้สนใจควรรู้เพื่อความปลอดภัย?
กฎของ ก.ล.ต. ในการกำกับผู้ดูแลสภาพคล่องมุ่งคุ้มครองนักลงทุนและความเป็นธรรม สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ ผู้ดูแลต้องได้รับอนุญาตและมีคุณสมบัติตามกำหนด มีเงินทุนและระบบควบคุมภายในเพียงพอ ปฏิบัติตามการเสนอราคาและสภาพคล่อง และ ก.ล.ต. มีการตรวจสอบและลงโทษหากฝ่าฝืน ความรู้เหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพตลาด
“อัตราทด” (Gearing) ที่เกี่ยวข้องกับ Market Maker ในตลาดอนุพันธ์คืออะไร และทำงานอย่างไรในบริบทของ TFEX?
อัตราทด หรือ Leverage ในตลาดอนุพันธ์ คือการควบคุมสินทรัพย์มูลค่าสูงด้วยเงินลงทุนน้อย ผู้ดูแลสภาพคล่องใน TFEX เกี่ยวข้องโดยสร้างสภาพคล่องสำหรับผลิตภัณฑ์อัตราทดสูงอย่างฟิวเจอร์สและออปชั่น ทำให้เข้าถึงง่าย พวกเขาเสนอราคาโดยพิจารณาอัตราทดและความเสี่ยง เพื่อให้ตลาดเคลื่อนไหวและนักลงทุนใช้ประโยชน์จาก Leverage ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หาก Market Maker ขาดทุนหนักหรือล้มเหลว จะส่งผลกระทบต่อตลาดหรือนักลงทุนไทยอย่างไร?
หากผู้ดูแลสภาพคล่องรายใดขาดทุนหนักหรือล้ม อาจกระทบตลาดหลายด้าน เช่น สภาพคล่องลดลงสำหรับสินทรัพย์ที่ดูแล ทำให้ซื้อขายยากและช่องว่างราคากว้าง ราคาผันผวนรุนแรง และความเชื่อมั่นนักลงทุนโดยรวมลดลง อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. และ TFEX มีมาตรการป้องกัน เช่น คุณสมบัติเข้มงวด การกระจายผู้ดูแลหลายราย และกลไกสำรอง เพื่อลดผลกระทบและรักษาความมั่นคง
การมี Market Maker ช่วยลดส่วนต่างราคา (Spread) ในตลาดไทยได้อย่างไร?
ผู้ดูแลสภาพคล่องช่วยลดช่องว่างราคาในตลาดไทยด้วยการแข่งขันเสนอราคาซื้อสูงและราคาขายต่ำต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักลงทุน การแข่งขันนี้ทำให้ช่องว่างระหว่างราคาซื้อสูงสุดและขายต่ำสุดแคบลง ส่งผลให้นักลงทุนซื้อขายในราคายุติธรรม ลดต้นทุนธุรกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพตลาดโดยรวม โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสภาพคล่องสูง