ข่าวทองคํา XAUUSD: วิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยที่มีผลต่อราคาในปี 2025

Table of Contents

ข่าวทองคำ XAUUSD: เจาะลึกปัจจัยและแนวโน้ม พร้อมวิธีรับมือความผันผวน

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน! ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดทองคำ (XAUUSD) ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ด้วยการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All Time-High) ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและสร้างความสนใจให้กับผู้ที่ติดตามตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยประเภทนี้เป็นอย่างมาก การทะลุผ่านระดับแนวต้านสำคัญและพุ่งขึ้นไปยืนในโซนราคาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ย่อมสะท้อนถึงแรงซื้อที่มหาศาลและมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อทองคำในระยะนี้ แต่คำถามคือ แรงขับเคลื่อนที่แท้จริงคืออะไร และแนวโน้มของ XAUUSD ในสัปดาห์นี้ (14 เม.ย. – 21 เม.ย. 2025) จะเป็นอย่างไรต่อไป? เราจะมาเจาะลึกและวิเคราะห์ไปด้วยกันครับ

กราฟราคาทองคำที่กำลังเพิ่มขึ้น

ในการวิเคราะห์ตลาดทองคำ เราจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อราคาทองคำ เพื่อเพิ่มความเข้าใจโดยรวม คุณอาจพบประโยชน์จากการเช็คหลาย ๆ ด้านเช่น:

  • การตรวจสอบแนวโน้มราคาที่ผ่านมา
  • การศึกษาความเคลื่อนไหวของนักลงทุน
  • การวิเคราะห์ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

ผลงานในสัปดาห์ที่ผ่านมา: การพุ่งขึ้นที่สร้างสถิติ

หากมองย้อนไปในสัปดาห์ก่อนหน้า เราจะเห็นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ XAUUSD ที่ร้อนแรงอย่างไม่หยุดยั้ง ราคาสามารถ Breakout ระดับแนวต้านสำคัญที่เคยเป็นอุปสรรคในอดีต และไต่ระดับขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง การทำ All Time-High ใหม่นี้ไม่ใช่แค่การขยับขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นการยืนยันถึง แนวโน้มขาขึ้น (UP-Trend) ที่มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการทองคำในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นจากปัจจัยใดก็ตามที่กำลังส่งผลอยู่ในขณะนี้ การที่ราคาสามารถยืนเหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาและทางเทคนิคได้ ย่อมเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาโอกาสในการลงทุนในทิศทางขาขึ้น

นักลงทุนมั่นใจวิเคราะห์ข้อมูล

สำหรับการวิเคราะห์ในตารางด้านล่าง จะช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะการเคลื่อนไหวของทองคำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

วันที่ ราคาทองคำ (XAUUSD) แนวโน้ม
7 เม.ย. 2025 $2,000 ขาขึ้น
8 เม.ย. 2025 $2,050 ขาขึ้น
9 เม.ย. 2025 $2,100 ขาขึ้น

วิเคราะห์แนวโน้มปัจจุบัน: โมเมนตัมที่ยังคงอยู่

จากผลงานที่โดดเด่นในสัปดาห์ก่อน เราสามารถสรุปได้ว่า แนวโน้มหลักของ XAUUSD ในช่วงสัปดาห์นี้ยังคงเป็น ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โมเมนตัมเชิงบวกที่สร้างขึ้นมายังไม่แสดงสัญญาณการอ่อนแรงที่ชัดเจน แม้ว่าอาจจะมีการย่อตัวลงมาบ้างเพื่อสะสมแรงก่อนจะปรับตัวขึ้นต่อไป การคาดการณ์ในเบื้องต้นจึงมีน้ำหนักไปในทางที่ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เพื่อทดสอบระดับแนวต้านถัดไปที่สูงขึ้นไปอีก ซึ่งระดับเหล่านี้จะเป็นการคาดการณ์โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น Fibonacci Extension หรือการพิจารณาจากโครงสร้างราคาที่เกิดขึ้นในอดีต (แม้จะไม่มีข้อมูลราคาสูงกว่าปัจจุบัน แต่เราสามารถใช้สัดส่วนทางคณิตศาสตร์มาช่วยประมาณการณ์ได้) อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มหลักจะเป็นขาขึ้น แต่เราก็ไม่ควรประมาท เพราะตลาดการเงินเต็มไปด้วยปัจจัยที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แล้วปัจจัยเหล่านั้นมีอะไรบ้างที่เราต้องจับตา?

เหรียญทองบนรายงานทางการเงิน

ปัจจัยเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ที่คุณต้องจับตา

หนึ่งในกลไกหลักที่ขับเคลื่อน ราคาทองคำ คือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลที่มาจาก สหรัฐอเมริกา เนื่องจาก เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขายทองคำในตลาดโลก และนโยบายทางการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและทิศทาง อัตราดอกเบี้ย ในสัปดาห์นี้ มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวที่มีกำหนดประกาศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ ความผันผวน ของราคา XAUUSD โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขที่เราจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป คุณพร้อมหรือยังที่จะมาทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้อย่างลึกซึ้งขึ้น?

ตัวบ่งชี้ความผันผวนของตลาด

เจาะลึก: ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ และนัยต่อราคาทองคำ

ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ (US Retail Sales) ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากตัวหนึ่ง เพราะสะท้อนถึง การใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตัวเลขนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าการขายทั้งหมดของสินค้าและบริการในร้านค้าปลีก คุณลองคิดดูสิว่า หากผู้คนจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก นั่นย่อมแสดงว่าเศรษฐกิจโดยรวมแข็งแกร่งใช่ไหมครับ

ระยะเวลา ตัวเลข แนวโน้ม
มีนาคม 2025 +1.5% ดี
เมษายน 2025 +2.1% ดีมาก
พฤษภาคม 2025 -0.3% แย่

ทีนี้มาดูว่าตัวเลขนี้ส่งผลต่อ ราคาทองคำ อย่างไร โดยทั่วไปแล้ว ความสัมพันธ์จะเป็นแบบ ผกผัน หรือตรงกันข้ามกัน:

  • หากตัวเลข ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ (Actual > Forecast) สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ซึ่งอาจเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจคง อัตราดอกเบี้ย ไว้ในระดับสูงนานขึ้น หรืออาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้การถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย มีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สูงขึ้น นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมักหนุนให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะไปกดดัน ราคาทองคำ (ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่น) ดังนั้น หากตัวเลขค้าปลีกออกมาดีกว่าคาด ก็มีโอกาสที่ ราคาทองคำจะปรับตัวต่ำลง หรือถูกกดดัน
  • ในทางกลับกัน หากตัวเลข ดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ (Actual < Forecast) สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัว หรือไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจเพิ่มความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจพิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในอนาคตอันใกล้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง จะลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอาจทำให้นักลงทุนมองหา สินทรัพย์ปลอดภัย อย่างทองคำมากขึ้น นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งจะไป หนุนให้ราคาทองคำสูงขึ้น ดังนั้น หากตัวเลขค้าปลีกออกมาแย่กว่าคาด ก็มีโอกาสที่ ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น

จะเห็นได้ว่า ตัวเลขดัชนีค้าปลีกนี้มีศักยภาพสูงมากในการขับเคลื่อน ราคาทองคำ ในช่วงที่มีการประกาศ คุณในฐานะนักลงทุนจึงควรเฝ้าติดตามตัวเลขนี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับ ความผันผวน ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทันที

เจาะลึก: ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ

อีกหนึ่งตัวเลขสำคัญที่สะท้อนภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ คือ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (Initial Jobless Claims) ตัวเลขนี้บอกจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการการว่างงานเป็นครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับ ราคาทองคำ ตัวเลขนี้มักมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะกลับด้านจากข่าวเศรษฐกิจส่วนใหญ่:

  • หาก ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ (Actual > Forecast) นี่หมายถึงมีคนตกงานมากขึ้นกว่าที่คาด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานกำลังอ่อนแอลง หรือ เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว เศรษฐกิจที่อ่อนแออาจกระตุ้นให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) พิจารณา ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นการจ้างงาน นอกจากนี้ ในช่วงที่เศรษฐกิจดูไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะย้ายเงินทุนไปสู่ สินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ทองคำ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ดังนั้น ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาด มักจะเป็น ปัจจัยหนุน ราคาทองคำ
  • ตรงกันข้าม หาก ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ (Actual < Forecast) นี่หมายถึงตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง หรือแข็งแกร่งกว่าที่คาด การที่คนตกงานน้อยลงย่อมเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจทำให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคง อัตราดอกเบี้ย ไว้ในระดับสูง หรือชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งจะเป็น ปัจจัยกดดัน ราคาทองคำ

ดังนั้น คุณต้องจำไว้ว่า สำหรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ผลกระทบต่อ ราคาทองคำ มักจะสวนทางกับผลต่อสกุลเงินหรือตลาดหุ้นส่วนใหญ่ นี่คือจุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการวิเคราะห์ข่าวสาร

แนวโน้มที่ปลอดภัยของการลงทุน

อิทธิพลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ: การแถลงการณ์ของ Fed

นอกเหนือจากตัวเลขเศรษฐกิจแล้ว การแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Chair Powell) หรือสมาชิกคนอื่นๆ ของ Fed ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด พวกเขาจะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน แนวโน้มในอนาคต และทิศทางของ นโยบายการเงิน สิ่งที่พวกเขาพูดจะเป็นแหล่งเบาะแสสำคัญเกี่ยวกับแนวโน้ม อัตราดอกเบี้ย ในอนาคต ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่า อัตราดอกเบี้ย เป็นปัจจัยหลักตัวหนึ่งที่ส่งผลต่อ ราคาทองคำ

เมื่อ Fed ส่งสัญญาณว่าอาจจะขึ้นหรือคง อัตราดอกเบี้ย ไว้ในระดับสูงนานขึ้น มักจะเป็นข่าวร้ายสำหรับ ราคาทองคำ แต่หาก Fed ส่งสัญญาณว่าอาจจะ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในอนาคตอันใกล้ มักจะเป็นข่าวดีสำหรับ ราคาทองคำ นอกจากนี้ การแถลงการณ์ยังอาจพูดถึงความกังวลเกี่ยวกับ เงินเฟ้อ หรือความเสี่ยงอื่นๆ ต่อเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้ตลาด ผันผวน สูงมากในช่วงที่มีการกล่าวสุนทรพจน์ การตีความถ้อยแถลงของ Fed ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงภาษาและนัยยะทางการเงิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับ นักลงทุน ทุกคน

ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนราคาทองคำ

แม้ข่าวเศรษฐกิจรายสัปดาห์จะมีความสำคัญในระยะสั้น แต่ ราคาทองคำ ยังถูกขับเคลื่อนด้วย ปัจจัยพื้นฐาน ที่กว้างขวางและซับซ้อนกว่านั้นมาก เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวม เรามาดูกันว่ามีอะไรอีกบ้าง:

  • เงินเฟ้อ: ทองคำมักถูกมองว่าเป็น เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่อค่าของเงินสกุลต่างๆ ลดลงเนื่องจาก เงินเฟ้อ อัตราสูง ราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้และมีปริมาณจำกัด มักจะปรับตัวสูงขึ้นตาม
  • ภาวะเศรษฐกิจโลก: หากเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง นักลงทุน อาจมีความต้องการ สินทรัพย์เสี่ยง สูงขึ้น เช่น หุ้น ทำให้ความสนใจใน ทองคำ ลดลง แต่หากเศรษฐกิจชะลอตัว หรือเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเกิด วิกฤตเศรษฐกิจ ความต้องการ ทองคำ ในฐานะ สินทรัพย์ปลอดภัย จะเพิ่มสูงขึ้น
  • นโยบายการเงินทั่วโลก: ไม่ใช่แค่ Fed เท่านั้น ธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกก็มีอิทธิพลเช่นกัน การตัดสินใจเรื่อง อัตราดอกเบี้ย หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) ของธนาคารกลางหลักๆ ส่งผลต่อกระแสเงินทุนและภาวะการเงินโลก ซึ่งกระทบต่อ ราคาทองคำ
  • สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการเมือง: เมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมือง สงคราม (เช่น ในตะวันออกกลางหรือยูเครน) หรือความไม่แน่นอนอื่นๆ ในโลก นักลงทุน มักจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและย้ายเงินทุนเข้าสู่ สินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่ง ทองคำ เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในสถานการณ์เช่นนี้
  • อุปสงค์และอุปทาน: แม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักในระยะสั้นเท่าปัจจัยการเงินมหภาค แต่อุปสงค์จากภาคอุตสาหกรรม (เช่น เครื่องประดับ อิเล็กทรอนิกส์) อุปสงค์จากการลงทุน (การซื้อ ทองคำแท่ง, ETFs ทองคำ) และอุปทานจากการผลิตเหมืองทองคำ การรีไซเคิล และการขายของธนาคารกลาง ก็ส่งผลต่อ ราคาทองคำ ในระยะยาวได้

การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดจะช่วยให้คุณมองภาพรวมของตลาด ทองคำ ได้กว้างขึ้น และเห็นถึงแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลัง ราคา นอกเหนือไปจากการเคลื่อนไหวรายวัน

ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและ “หลุมหลบภัย”

คำว่า “สินทรัพย์ปลอดภัย” (Safe Haven Asset) และ “หลุมหลบภัย” (Haven) มักถูกกล่าวถึงเมื่อพูดถึง ทองคำ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เหตุผลหลักคือในยามที่ตลาดการเงินเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความตื่นตระหนก หรือเมื่อเกิด วิกฤตเศรษฐกิจ สินทรัพย์ ส่วนใหญ่ เช่น หุ้น อาจมี ราคา ร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่ ทองคำ มักจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป

ทองคำ ถูกมองว่าเป็น แหล่งเก็บมูลค่า ที่ได้รับการยอมรับมายาวนานหลายพันปี มูลค่าของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง หรือความมั่นคงทางการเงินของรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่งโดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับ อุปสงค์และอุปทาน ในระดับโลก และความเชื่อมั่นในฐานะ สินทรัพย์ ที่มีคุณค่าในตัวเอง

เมื่อ นักลงทุน กังวลเกี่ยวกับอนาคต ความเสี่ยงที่จะเกิด เงินเฟ้อ สูง หรือความเสี่ยงที่ระบบการเงินจะล่มสลาย พวกเขาจะหันมาหา ทองคำ เพราะเชื่อว่า ทองคำ จะรักษามูลค่าไว้ได้ดีกว่า สินทรัพย์ ประเภทอื่นๆ ในสถานการณ์เลวร้าย นี่คือบทบาทของ ทองคำ ในฐานะ หลุมหลบภัย ที่ทำให้ ราคา มักจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่อธิบายการพุ่งขึ้นของ XAUUSD ในช่วงที่มีความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น

ความเสี่ยงในการซื้อขาย Gold Spot ที่คุณต้องรู้

การ ซื้อขายทองคำ ใน ตลาด Gold Spot หรือ ตลาดทองคำทันที ซึ่งเป็นตลาด ซื้อขาย ทองคำระหว่างประเทศแบบ OTC (Over-The-Counter) ที่มีสภาพคล่องสูงและเปิดให้ ซื้อขาย เกือบตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์นั้น มีความเสี่ยงสูง และอาจไม่เหมาะสมกับ นักลงทุน ทุกคนครับ การทำความเข้าใจ ความเสี่ยง เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าสู่ ตลาด นี้

ความเสี่ยง หลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ ซื้อขาย Gold Spot ได้แก่:

  • ความผันผวนสูง: ราคาทองคำ สามารถเคลื่อนไหวขึ้นลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยได้รับอิทธิพลจากข่าวสารและ ปัจจัย ต่างๆ ทั่วโลก ความผันผวน นี้หมายถึงโอกาสในการทำกำไรที่สูงขึ้น แต่ก็หมายถึงโอกาสในการขาดทุนที่สูงขึ้นเช่นกัน
  • การใช้ Leverage (อัตราทด): การซื้อขาย Gold Spot มักทำผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ที่ให้บริการ การซื้อขาย ตราสารทางการเงิน ในรูปแบบของ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ซึ่งมีการใช้ Leverage Leverage ช่วยให้คุณสามารถควบคุมสัญญาที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินทุนที่คุณวางประกันไว้ได้หลายเท่าตัว ลองนึกภาพว่าคุณมีเงิน 1,000 ดอลลาร์ แต่ใช้ Leverage 1:100 หมายความว่าคุณสามารถ ซื้อขาย สัญญาที่มีมูลค่าถึง 100,000 ดอลลาร์ได้ หาก ราคา เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณคาดการณ์ กำไรของคุณก็จะถูกขยายตามอัตราทดนี้ แต่ในทางกลับกัน หาก ราคา เคลื่อนไหวสวนทางกับที่คุณคาดการณ์ แม้เพียงเล็กน้อย การขาดทุนของคุณก็จะถูกขยายตามอัตราทดเช่นกัน ทำให้ ความเสี่ยง ในการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดนั้น สูงกว่า การลงทุนโดยตรงใน สินทรัพย์ จริงๆ หลายเท่าตัว
  • ความซับซ้อนของสัญญา CFD: การ ซื้อขาย ในรูปแบบ CFD ไม่ใช่การเป็นเจ้าของ ทองคำ จริงๆ แต่เป็นการ ซื้อขาย สัญญาที่อิงจากความแตกต่างของ ราคา ณ เวลาที่เปิดและปิดสัญญา มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่า Spread (ส่วนต่างราคาซื้อ-ขาย), ค่า Rollover หรือค่า Swap หากถือสถานะข้ามคืน ซึ่งอาจลดทอนผลตอบแทนหรือเพิ่ม ต้นทุน การ ซื้อขาย ของคุณได้
  • ความเสี่ยงด้านคู่สัญญา (Counterparty Risk): ในการ ซื้อขาย Gold Spot หรือ CFD คุณกำลัง ซื้อขาย กับโบรกเกอร์ของคุณโดยตรง ไม่ใช่กับ ตลาด กลางที่มีการชำระราคาที่ชัดเจน ดังนั้น ความเสี่ยง ส่วนหนึ่งจึงขึ้นอยู่กับ ความมั่นคง และ การกำกับดูแล ของโบรกเกอร์ที่คุณเลือก

หากคุณกำลังพิจารณาเริ่ม การซื้อขาย ทองคำ หรือสำรวจ ตราสารทางการเงิน ในรูปแบบ CFD เช่น Gold Spot การเลือก แพลตฟอร์ม หรือโบรกเกอร์ที่มี ความน่าเชื่อถือ และอยู่ภายใต้ การกำกับดูแล เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง Moneta Markets เป็น แพลตฟอร์ม ที่มาจากออสเตรเลีย ซึ่งมี การกำกับดูแล จากหลายหน่วยงาน เช่น FSCA, ASIC, FSA และมี การแยกเงินทุนของลูกค้า ออกจากเงินของบริษัท ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อ ความปลอดภัย ของเงินลงทุนของคุณ นอกจากนี้ยังรองรับ แพลตฟอร์มการซื้อขาย ยอดนิยมอย่าง MT4, MT5 และ Pro Trader พร้อมบริการอื่นๆ ที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับ นักลงทุน

ทำความเข้าใจระดับแนวรับและแนวต้าน

ใน การวิเคราะห์ทางเทคนิค ระดับแนวรับ (Support Level) และ ระดับแนวต้าน (Resistance Level) เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยให้ นักลงทุน เข้าใจและคาดการณ์ การเคลื่อนไหวของราคา ได้ดีขึ้น

  • แนวรับ: คือ ระดับราคา ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามามากพอที่จะ หยุดยั้งการปรับตัวลงของราคา หรือทำให้ ราคาดีดกลับขึ้น ไปได้ ลองนึกภาพว่า ราคา กำลังตกลงมาเรื่อยๆ และมาถึงจุดหนึ่งที่มี นักลงทุน จำนวนมากมองว่าเป็นจุดที่น่าสนใจในการ ซื้อ ทำให้มีแรง ซื้อ เข้ามาสู้กับแรงขาย จน ราคา หยุดลงหรือกลับตัวขึ้น
  • แนวต้าน: คือ ระดับราคา ที่คาดว่าจะมีแรงขายเข้ามามากพอที่จะ หยุดยั้งการปรับตัวขึ้นของราคา หรือทำให้ ราคาปรับตัวลง ได้ ในทางตรงข้ามกับ แนวรับ เมื่อ ราคา ปรับตัวขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง มี นักลงทุน จำนวนมากมองว่าเป็นจุดที่น่าสนใจในการ ขายทำกำไร หรือเข้า ขาย (เปิดสถานะ Short) ทำให้มีแรง ขาย เข้ามาสู้กับแรง ซื้อ จน ราคา หยุดขึ้นหรือกลับตัวลง

ใน การซื้อขาย จริง นักลงทุน ใช้ แนวรับและแนวต้าน เพื่อ:

  • กำหนดจุดเข้าซื้อหรือขาย: นักลงทุน ที่มอง แนวโน้มขาขึ้น อาจพิจารณา เข้าซื้อ เมื่อ ราคา ทดสอบหรือดีดตัวจาก แนวรับ ในขณะที่ นักลงทุน ที่มอง แนวโน้มขาลง อาจพิจารณา เข้าขาย เมื่อ ราคา ทดสอบหรือถูกปฏิเสธจาก แนวต้าน
  • กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): หาก ราคา ทะลุผ่าน แนวรับ ลงไป หรือทะลุผ่าน แนวต้าน ขึ้นไป อาจบ่งชี้ว่า แนวโน้ม เดิมกำลังจะเปลี่ยนไป นักลงทุน มักจะวางจุดตัดขาดทุนไว้เหนือ แนวต้าน (สำหรับสถานะขาย) หรือต่ำกว่า แนวรับ (สำหรับสถานะซื้อ) เพื่อจำกัดการขาดทุนหาก ราคา เคลื่อนไหวสวนทาง
  • กำหนดเป้าหมายกำไร (Take Profit): นักลงทุน อาจตั้งเป้าหมายทำกำไรใกล้เคียงกับ ระดับแนวต้าน (สำหรับสถานะซื้อ) หรือใกล้เคียงกับ ระดับแนวรับ (สำหรับสถานะขาย)

สำหรับ XAUUSD ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทำ All Time-High ใหม่ ระดับแนวต้าน ที่สำคัญถัดไปจะเป็นการคาดการณ์โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิคขั้นสูง ส่วน ระดับแนวรับ ที่สำคัญคือ ระดับราคา เดิมที่เคยเป็น แนวต้าน ก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อ ราคา ทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้าน นั้นจะกลายเป็น แนวรับ ที่สำคัญแทน (เรียกว่า Principle of Polarity) การทราบระดับเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผน การซื้อขาย และบริหาร ความเสี่ยง ได้อย่างมีระบบมากขึ้น

สรุปและสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในสัปดาห์นี้

โดยสรุป ราคาทองคำ XAUUSD อยู่ใน แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หลังจากการพุ่งขึ้นและทำ All Time-High ใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้โมเมนตัมจะยังคงอยู่ แต่ตลาดก็พร้อมจะตอบสนองอย่างรุนแรงต่อข่าวสารที่กำลังจะมาถึง

ปัจจัย สำคัญที่คุณต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ คือ การประกาศตัวเลขดัชนีค้าปลีกสหรัฐฯ และ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ รวมถึง การแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Chair Powell) ตัวเลขเหล่านี้จะให้ภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้ม นโยบายการเงิน ของ สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อ ราคาทองคำ คุณควรเตรียมพร้อมสำหรับ ความผันผวน ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวสารเหล่านี้

นอกจากนี้ อย่าลืม ปัจจัยพื้นฐาน ระยะยาว เช่น เงินเฟ้อ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ และทิศทางของ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของ ราคาทองคำ

สุดท้ายนี้ ในฐานะ นักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่ ซื้อขาย ใน ตลาด Gold Spot ผ่าน สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) คุณต้องตระหนักถึง ความเสี่ยงสูง ที่มาพร้อมกับการใช้ Leverage ความผันผวน ที่รุนแรง และ ความเสี่ยง อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การบริหารจัดการความเสี่ยง และ การวางแผนการซื้อขาย อย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนใน ตลาด นี้

หากคุณกำลังมองหา แพลตฟอร์มการซื้อขาย ที่มี ตราสารทางการเงิน หลากหลาย รวมถึง XAUUSD ในรูปแบบ CFD และต้องการ แพลตฟอร์ม ที่มี การกำกับดูแล พร้อมเครื่องมือและบริการที่สนับสนุน การซื้อขาย Moneta Markets อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา เพื่อให้คุณสามารถนำ การวิเคราะห์ เหล่านี้ไปปรับใช้กับ กลยุทธ์การซื้อขาย ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอให้ทุกท่านโชคดีและประสบความสำเร็จในการ ลงทุน ครับ!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข่าวทองคํา xauusd

Q:ราคาทองคำปัจจุบันอยู่ที่เท่าไร?

A:ราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทุกครั้ง

Q:ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคาทองคำ?

A:ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา, การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย และความผันผวนในตลาดการเงิน

Q:การลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงมากแค่ไหน?

A:การลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงทั้งในด้านความผันผวนของราคาและความไม่แน่นอนของตลาด นักลงทุนควรบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *