Prop Firm FundedNext: ทำความรู้จักและเริ่มเทรดกับบริษัทการเทรดที่มาแรง

FundedNext คืออะไร? รู้จัก Prop Firm ที่กำลังมาแรง

นักเทรดกำลังทำงานบนแล็ปท็อปพร้อมกราฟการซื้อขาย

ในโลกของการเทรดที่มีการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง การมีเงินทุนเพียงพอไม่ใช่แค่ข้อได้เปรียบ แต่คือปัจจัยสำคัญที่อาจเปลี่ยนความพยายามให้กลายเป็นความสำเร็จอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงแหล่งทุนจริงในระดับที่สามารถสร้างรายได้จริงได้ยังคงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเทรดเดอร์จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีประวัติผลการเทรดระยะยาวที่น่าเชื่อถือ นี่คือจุดที่บริษัทเทรดเพื่อผลกำไร หรือที่เรียกว่า Proprietary Trading Firm (Prop Firm) เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยให้โอกาสผู้มีทักษะได้ใช้เงินทุนของบริษัท เพื่อแลกกับส่วนแบ่งกำไรที่สมเหตุสมผล

หนึ่งในชื่อที่กำลังมาแรงที่สุดในวงการ Prop Firm ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือ FundedNext ซึ่งไม่ได้เพียงแค่เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ แต่กลับรีดีไซน์แนวทางการสนับสนุนเทรดเดอร์ด้วยโมเดลที่เน้นความยืดหยุ่น ความโปร่งใส และแรงจูงใจที่ชัดเจน ด้วยการเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์จากทั่วโลกได้แสดงศักยภาพบนบัญชีจริงขนาดสูงสุดถึง $200,000 และมีแผนเติบโตสู่ระดับ 4 ล้านดอลลาร์ในอนาคต

สิ่งที่ทำให้ FundedNext โดดเด่นคือการออกแบบระบบให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของนักเทรด โดยเฉพาะการไม่จำกัดเวลาในการสอบ การให้ส่วนแบ่งกำไรแม้ในช่วงประเมินผล และกฎเกณฑ์ที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ทั้งหมดนี้ช่วยดึงดูดทั้งเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และนักเทรดระดับโปรที่มองหาแพลตฟอร์มใหม่ที่ให้อิสระมากกว่าเดิม

สรุปภาพรวม FundedNext: เหมาะกับใคร?

ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมกับ Prop Firm ใด ๆ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจภาพรวมของบริการในแง่ของโครงสร้าง ข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ FundedNext ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีความสมดุลระหว่างความท้าทายกับความยืดหยุ่นสูง มาดูข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

หัวข้อ รายละเอียด
ปีที่ก่อตั้ง 2022
สำนักงานใหญ่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แพลตฟอร์มที่รองรับ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5)
ตราสารที่เทรดได้ Forex, Indices, Commodities
ส่วนแบ่งกำไร (Profit Split) เริ่มต้น 60% สูงสุดถึง 90% (และ 15% ตั้งแต่ช่วงสอบ)
คะแนนความน่าเชื่อถือ ยอดเยี่ยม 4.6/5.0 จาก Trustpilot

โดยสรุป FundedNext เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่มีระบบเทรดที่ชัดเจน แต่ขาดทุนเพื่อขยายผลกำไรให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง ไม่ชอบถูกกดดันด้วยเวลา และมองหาโอกาสเติบโตในระยะยาวพร้อมกับชุมชนที่เข้มแข็ง

รูปแบบการระดมทุน (Funding Models) ของ FundedNext มีอะไรบ้าง?

ภาพประกอบแนวคิดเกี่ยวกับความท้าทายในการเทรด

หนึ่งในจุดแข็งของ FundedNext คือการนำเสนอทางเลือกหลากหลายให้กับเทรดเดอร์ที่มีสไตล์และความต้องการแตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชอบความท้าทายแบบมีขั้นตอน หรือต้องการเริ่มต้นบนบัญชีจริงทันที บริษัทมีโมเดลที่ตอบโจทย์คุณอยู่ โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่

Evaluation Model (โมเดลประเมินผล 2 ขั้นตอน)

เป็นโมเดลคลาสสิกที่ใช้กันทั่วไปใน Prop Firm ซึ่งจำลองกระบวนการคัดเลือกเทรดเดอร์ในโลกจริงอย่างเข้มงวด โดยต้องผ่าน 2 ขั้นตอนก่อนได้รับทุนจริง ช่วยกรองผู้ที่มีวินัยและความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

  • Phase 1: ตั้งเป้าทำกำไร 8% ของขนาดบัญชี โดยมีขีดจำกัดการขาดทุนรายวันสูงสุด (Max Daily Drawdown) ที่ 5% และการขาดทุนสะสม (Max Overall Drawdown) ไม่เกิน 10%
  • Phase 2: หลังผ่านขั้นที่หนึ่ง เป้าหมายลดลงเหลือ 5% แต่กฎการจัดการความเสี่ยงยังคงเหมือนเดิม
  • จุดเด่น: ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการทำภารกิจ คุณสามารถรอจังหวะที่เหมาะสมที่สุดได้โดยไม่รีบเร่ง เมื่อผ่านทั้งสองขั้นตอน คุณจะได้รับทุนจริง พร้อมเงินค่าสมัครคืน 100% และเริ่มรับส่วนแบ่งกำไรทันที

Express Model (โมเดลไม่ต้องประเมินผล)

เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มั่นใจในทักษะและต้องการข้ามขั้นตอนการสอบ เพื่อเข้าสู่บัญชีจริงโดยทันที โดยไม่ต้องผ่านการท้าทายใด ๆ แต่ยังคงต้องรักษาวินัยตามเงื่อนไขของบริษัท

  • เงื่อนไข: ต้องทำกำไรได้ 25% ของขนาดบัญชีเพื่อเริ่มต้นแผนขยายพอร์ต (Scaling Plan)
  • กฎการเทรด: ใช้ Max Daily Drawdown ที่ 5% และ Max Overall Drawdown ที่ 10% เช่นเดียวกับโมเดลอื่น ๆ พร้อมข้อกำหนดให้เทรดอย่างน้อย 10 วันต่อเดือนเพื่อรักษาสถานะ
  • ข้อดีและข้อเสีย: ข้อดีคือได้รับส่วนแบ่งกำไร 60% ตั้งแต่วันแรก และไม่ต้องผ่านการประเมิน แต่ข้อเสียคือเป้าหมาย 25% เพื่อขยายพอร์ตนั้นค่อนข้างสูงและท้าทาย ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และผลประกอบการดีต่อเนื่อง

Stellar Challenge (โมเดลท้าทาย)

ถือเป็นหนึ่งในโมเดลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มเทรดเดอร์ เพราะรวมจุดเด่นของทั้งสองโมเดลไว้ในตัว ทั้งง่ายต่อการเข้าร่วมและให้ผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ

  • Stellar 2-Step: คล้ายกับ Evaluation Model โดยมีเป้า 8% และ 5% ตามลำดับ แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยเฉพาะในเรื่องการคำนวณ Drawdown จาก Balance ทำให้บริหารพอร์ตได้ง่ายขึ้น
  • Stellar 1-Step: เป็นการท้าทายแบบขั้นตอนเดียว ตั้งเป้า 10% โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา เหมาะกับผู้ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองและได้รับทุนอย่างรวดเร็ว
  • จุดเด่น: ทั้งสองแบบของ Stellar Challenge มีข้อได้เปรียบที่ไม่พบในที่อื่น นั่นคือการได้รับส่วนแบ่งกำไร 15% ตั้งแต่ช่วงท้าทาย (Challenge Phase) ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจและลดความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อผ่านแล้ว จะได้รับส่วนแบ่ง 80% และสามารถเพิ่มเป็น 90% ได้เมื่อเติบโตตามแผน

เจาะลึกกฎการเทรดที่ต้องรู้ของ FundedNext

การเข้าใจกฎเกณฑ์อย่างลึกซึ้งคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จใน Prop Firm แม้ระบบจะยืดหยุ่น แต่ก็มีข้อห้ามที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความยุติธรรมและความมั่นคงของพอร์ตการลงทุนของบริษัท

  • Max Daily Drawdown (การขาดทุนสูงสุดรายวัน): กำหนดไว้ที่ 5% ของยอด Balance หรือ Equity ต้นวัน (ขึ้นอยู่กับโมเดล) หากขาดทุนเกินขีดนี้ บัญชีจะถูกระงับทันที
  • Max Overall Drawdown (การขาดทุนสูงสุดโดยรวม): ไม่ให้ขาดทุนสะสมเกิน 10% ของขนาดบัญชีเริ่มต้น หากยอด Equity ต่ำกว่า 90% ของต้นทุน บัญชีจะถูกปิดอัตโนมัติ
  • News Trading (การเทรดช่วงข่าว): ในโมเดลอย่าง Evaluation และ Express อาจมีข้อจำกัดในการเทรดช่วงข่าวสำคัญ แต่ใน Stellar Challenge กลับอนุญาตให้เทรดได้ตามปกติ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับผู้ที่ใช้กลยุทธ์ข่าว
  • การใช้ Expert Advisor (EA): อนุญาตให้ใช้ EA ได้ แต่ต้องไม่เป็นกลยุทธ์ที่ผิดจรรยาบรรณ เช่น Arbitrage หรือ High-frequency trading และห้ามใช้ EA เดียวกันกับผู้อื่นเพื่อป้องกันการคัดลอก

นอกจากนี้ FundedNext ยังไม่จำกัดการถือออเดอร์ข้ามคืนหรือสุดสัปดาห์ ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Swing หรือ Position Trading

รีวิวข้อดีของ FundedNext (Pros)

จากความเห็นของผู้ใช้งานจริงในชุมชนออนไลน์และคะแนนรีวิวที่สูงบน Trustpilot ทำ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *