การสอบกองทุน Forex คืออะไร? ทำความเข้าใจ Prop Firm ใน 5 นาที

Table of Contents

สอบกองทุน Forex คืออะไร? ทำความเข้าใจ Prop Firm ใน 5 นาที

การสอบกองทุน Forex หรือที่หลายคนในวงการเรียกว่า Prop Firm Challenge เป็นกระบวนการคัดเลือกเทรดเดอร์ของบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใช้เงินทุนของตนเอง หรือที่เรียกว่า Proprietary Trading Firm (Prop Firm) โดยบริษัทเหล่านี้จะให้โอกาสเทรดเดอร์ที่มีฝีมือได้ใช้เงินทุนขนาดใหญ่จากบริษัทเพื่อสร้างผลกำไร แล้วแบ่งผลตอบแทนกันตามสัดส่วนที่ตกลงไว้

แนวคิดหลักของโมเดลนี้เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ: แทนที่คุณจะต้องใช้เงินทุนส่วนตัวที่อาจจำกัด ทำให้กำไรเติบโตช้า Prop Firm จึงเปิดทางให้คุณเข้าถึงเงินทุนตั้งแต่ $10,000 ไปจนถึงหลักล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมอบทุนก้อนใหญ่ให้ใครสักคน บริษัทก็จำเป็นต้องมั่นใจว่าบุคคลนั้นมีทั้งทักษะการเทรด วินัยในการจัดการพอร์ต และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างรัดกุม จึงเกิดเป็น “การสอบ” ขึ้นมาเพื่อกรองผู้มีคุณสมบัติ

กระบวนการสอบนี้คล้ายกับการเทรดในบัญชีเดโม่ แต่มาพร้อมกับกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากคุณสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายและไม่ละเมิดกฎการขาดทุนที่กำหนด ก็จะถือว่าสอบผ่าน และได้รับสิทธิ์ในการเทรดด้วยเงินทุนจริงของบริษัท สำหรับเทรดเดอร์แล้ว ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนคือการได้เทรดในขนาดพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นหลายเท่า ขณะที่ความเสี่ยงของตัวเองจำกัดอยู่เพียง “ค่าธรรมเนียมการสอบ” เท่านั้น และในหลายกรณี หากสอบผ่าน ค่าธรรมเนียมนี้ก็จะถูกคืนให้ทั้งหมด

ภาพประกอบแนวคิดการเทรด Forex และ Prop Firm

ขั้นตอนการสอบกองทุน Forex: จาก Challenge สู่การเป็น Funded Trader

กระบวนการสอบกองทุน Forex ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก เพื่อทดสอบทั้งความสามารถในการทำกำไรและวินัยในการบริหารความเสี่ยง ทั้งสองเฟสออกแบบมาให้ครอบคลุมทักษะที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ

เฟส 1: ด่านท้าทาย (The Challenge)

นี่คือขั้นตอนแรกและถือเป็นบททดสอบที่เข้มข้นที่สุด โดยคุณจะได้รับบัญชีทดลอง (Demo Account) พร้อมกับเงื่อนไขที่ชัดเจน ซึ่งต้องพิสูจน์ว่าคุณสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวด รายละเอียดหลักของเฟสนี้ประกอบด้วย:

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): ต้องทำกำไรให้ได้ประมาณ 8% ถึง 10% ของมูลค่าบัญชีเริ่มต้น
  • ระยะเวลาในการทำกำไร: โดยทั่วไปกำหนดไว้ที่ 30 วันปฏิทิน
  • กฎการขาดทุน: ต้องไม่เกินขีดจำกัดทั้งรายวัน (Max Daily Drawdown) และรวมทั้งหมด (Max Overall Drawdown) ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นอย่างไร

หากคุณสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด และไม่ละเมิดกฎใดๆ เลย คุณจะผ่านไปยังเฟสถัดไป ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่าคุณไม่ใช่ผู้โชคดีครั้งเดียว แต่มีระบบเทรดที่ทำงานได้จริง

เฟส 2: การยืนยันความสามารถ (The Verification)

ด่านนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันว่าความสำเร็จในเฟสแรกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากกลยุทธ์ที่ยั่งยืนและสามารถทำซ้ำได้ กฎในเฟสนี้มักจะผ่อนคลายลงเล็กน้อยเพื่อให้คุณเทรดได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  • เป้าหมายกำไร (Profit Target): ลดลงเหลือประมาณ 5% ของมูลค่าบัญชี
  • ระยะเวลา: ขยายเวลาเป็น 60 วัน เพื่อลดความเร่งรีบในการทำกำไร
  • กฎการขาดทุน: ยังคงใช้เงื่อนไขเดิมทั้งรายวันและรวมทั้งหมด ซึ่งยังคงเป็นกุญแจสำคัญ

ขั้นตอนนี้เน้นการรักษาวินัยและความสม่ำเสมอ มากกว่าการไล่ล่าผลกำไร หากคุณผ่านเฟสนี้ได้ แสดงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะกลายเป็นเทรดเดอร์ภายใต้เงินทุนจริง

กลายเป็น Funded Trader

ยินดีด้วย! เมื่อคุณผ่านทั้งสองเฟส คุณจะได้รับสถานะอย่างเป็นทางการในชื่อ “Funded Trader” ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้:

  • บัญชีเทรดจริง (Live Account): คุณจะได้รับชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชีที่ใช้เงินทุนจริงของบริษัท
  • คืนค่าสอบ: บริษัทส่วนใหญ่จะคืนค่าธรรมเนียมที่คุณจ่ายไปในตอนแรก พร้อมกับการจ่ายผลกำไรครั้งแรก
  • ส่วนแบ่งกำไร (Profit Split): คุณจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ทำได้ โดยเริ่มต้นที่ 80% สำหรับเทรดเดอร์ และ 20% สำหรับบริษัท โดยสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามผลงานในอนาคต

จากนี้ไป หน้าที่ของคุณคือรักษาวินัยในการเทรด ปฏิบัติตามกฎการขาดทุนอย่างเคร่งครัด และสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น และอาจได้รับการเพิ่มทุนในอนาคตผ่านแผนการเติบโต (Scaling Plan)

ภาพประกอบเทรดเดอร์ใน Prop Firm กับการทำงานบนหน้าจอหลายจอ

กฏหลักที่ต้องเข้าใจก่อนสอบ: Profit Target และ Drawdown

หัวใจของการสอบกองทุน Forex ไม่ใช่การพยายามทำกำไรให้ได้มากที่สุด แต่คือการ “อยู่รอดโดยไม่ละเมิดกฎ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎที่เกี่ยวกับการขาดทุน หรือที่เรียกว่า Drawdown การเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้อย่างลึกซึ้งจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการผ่านด่าน

เป้าหมายกำไร (Profit Target)

นี่คือจุดหมายปลายทางของการสอบ ซึ่งกำหนดไว้เป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบัญชีเริ่มต้น หากคุณทำกำไรได้ตามเป้าหมายในแต่ละเฟส คุณก็ผ่านด่านนั้นไปได้

ตัวอย่าง: หากคุณสมัครบัญชี $100,000 และเป้าหมายกำไรในเฟส 1 อยู่ที่ 8% คุณจะต้องทำให้ยอด Equity หรือ Balance ถึง $108,000 จึงจะถือว่าบรรลุเป้าหมาย

การขาดทุนสูงสุดรายวัน (Maximum Daily Drawdown)

นี่คือหนึ่งในกับดักที่ทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากล้มเหลว กฎนี้กำหนดว่าคุณสามารถขาดทุนได้ไม่เกินเท่าไรในหนึ่งวัน โดยทั่วไปอยู่ที่ 4% – 5% ของยอดเงินเริ่มต้น และจะรีเซ็ตทุกวันตามเวลาปิดของเซิร์ฟเวอร์โบรกเกอร์

ตัวอย่างสำคัญ: สำหรับบัญชี $100,000 ที่มี Max Daily Drawdown 5% ($5,000)

  • ยอด Balance ตอนเริ่มวันคือ $100,000
  • จุดที่ห้ามแตะคือ $95,000
  • หากคุณทำกำไรได้ถึง $102,000 แต่ราคาวิ่งสวนทางจน Equity ร่วงลงแตะ $95,000 คุณจะถูกตัดสิทธิ์ทันที แม้ว่าจะขาดทุนจากยอดต้นเพียง $5,000 ก็ตาม

หลายบริษัทคำนวณ Daily Drawdown จากจุดที่สูงที่สุดของวัน (Highest Equity) ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงในช่วงที่คุณกำลังทำกำไรจึงสำคัญยิ่ง การทำความเข้าใจรายละเอียดสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ หน้า FAQ ของ FTMO ซึ่งถือเป็นมาตรฐานอ้างอิงของอุตสาหกรรม

การขาดทุนสูงสุดรวม (Maximum Overall Drawdown)

กฎนี้ครอบคลุมการขาดทุนสะสมตลอดระยะเวลาการสอบ โดยทั่วไปอยู่ที่ 8% – 12% ของยอดเงินเริ่มต้น และคำนวณจากยอดเริ่มต้นแบบคงที่ (Static) ไม่ขยับตามกำไรที่เพิ่มขึ้น

ตัวอย่าง: บัญชี $100,000 ที่มี Max Overall Drawdown 10% ($10,000)

  • จุดที่ห้ามต่ำกว่าตลอดการสอบคือ $90,000
  • แม้คุณจะทำกำไรได้ถึง $107,000 แล้ว แต่หากวันใดวันหนึ่ง Equity ร่วงลงแตะ $90,000 คุณจะถูกตัดสิทธิ์ทันที

กฎนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสุดท้ายของบริษัท เพื่อไม่ให้เงินทุนสูญเสียมากเกินไป และบังคับให้เทรดเดอร์ต้องมีแผนบริหารความเสี่ยงระยะยาว

เปรียบเทียบ Prop Firm ยอดนิยม: สอบที่ไหนดีที่สุดในปี 2025?

การเลือก Prop Firm ที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณคือก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จ มีบริษัทจำนวนมากที่เปิดให้บริการ แต่ละแห่งมีเงื่อนไข ค่าธรรมเนียม และจุดเด่นที่แตกต่างกัน รวมถึงมีบางรายที่เพิ่งเข้ามาในตลาดและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เช่น Moneta Markets ซึ่งโดดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นในกฎการเทรดและแผนการเติบโตที่ดึงดูดใจ

ด้านล่างนี้คือตารางเปรียบเทียบ Prop Firm ชั้นนำ รวมถึง Moneta Markets ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในปีนี้:

คุณสมบัติ FTMO The Funded Trader FundedNext Moneta Markets
ค่าสอบ (บัญชี $100k) €540 $549 (Standard Challenge) $549 (Stellar 2-Step) $499 (Two-Phase)
Profit Target (P1/P2) 10% / 5% 10% / 5% 8% / 5% 8% / 4%
Max Daily Drawdown 5% 5% 5% 5%
Max Overall Drawdown 10% 10% 10% 10%
Profit Split เริ่ม 80%, สูงสุด 90% เริ่ม 80%, สูงสุด 90% เริ่ม 80%, สูงสุด 90% (พร้อมกำไร 15% จากช่วงสอบ) เริ่ม 80%, สูงสุด 90% (พร้อมโบนัสเพิ่มทุนเร็ว)
จุดเด่น ชื่อเสียงดีที่สุดในอุตสาหกรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีโปรแกรมหลากหลาย ชุมชนแข็งแรง โปรโมชั่นบ่อย ให้กำไร 15% จากช่วงสอบ ไม่จำกัดเวลาในบางแผน ค่าสอบถูกกว่า อนุญาตให้ใช้ EA ได้หลากหลาย แผนเพิ่มทุนรวดเร็ว

บทวิเคราะห์:

  • FTMO: ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความมั่นคงและความน่าเชื่อถือสูงสุด แม้เงื่อนไขจะไม่ได้ต่างจากที่อื่นมากนัก แต่ FTMO ยังคงเป็นมาตรฐานอ้างอิงของวงการ
  • The Funded Trader: เหมาะกับผู้ที่ต้องการความหลากหลายทั้งในรูปแบบการสอบและกลยุทธ์การเทรด พร้อมชุมชนผู้ใช้งานที่มีความช่วยเหลือกันสูง
  • FundedNext: เลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนเร็ว ด้วยการให้ส่วนแบ่งกำไรจากช่วงสอบ และเป้าหมายกำไรที่ต่ำกว่า
  • Moneta Markets: เป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ระบบอัตโนมัติ (EA) เพราะอนุญาตให้ใช้ได้กว้างขวาง และมีแผนเพิ่มทุนที่รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมยังต่ำกว่าคู่แข่ง
ภาพประกอบกลยุทธ์การเทรดและการบริหารความเสี่ยง

กลยุทธ์เตรียมตัวสอบกองทุน Forex ให้ผ่านได้จริง

การสอบกองทุนไม่ใช่แค่การทดสอบทักษะการเทรด แต่เป็นการวัดวินัย ความอดทน และจิตวิทยาภายใต้ความกดดัน การเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยเพิ่มโอกาสในการผ่านได้อย่างมีนัยสำคัญ

เลือกขนาดบัญชีให้เหมาะกับสไตล์

อย่าหลงกับขนาดบัญชีใหญ่ที่สุดเสมอไป การเริ่มต้นจากบัญชีเล็ก เช่น $10,000 หรือ $25,000 จะช่วยลดความกดดันและค่าใช้จ่าย หากกลยุทธ์ของคุณทำกำไรได้ประมาณ 5% ต่อเดือน การพยายามสอบบัญชีที่ต้องทำ 10% ใน 30 วัน อาจบีบให้คุณต้องเทรดเสี่ยงเกินไป และเพิ่มโอกาสล้มเหลว

บริหารความเสี่ยงให้เป็นหัวใจหลัก

ข้อนี้สำคัญที่สุด อย่ามัวแต่คิดเรื่องกำไร แต่จงเน้น “การอยู่รอด” เป็นอันดับแรก แนะนำให้จำกัดความเสี่ยงต่อครั้งเทรดไม่เกิน 0.5% – 1% ของมูลค่าบัญชี

ตัวอย่าง: สำหรับบัญชี $100,000 ความเสี่ยง 1% คือ $1,000 ต่อครั้ง หากคุณตั้ง SL อย่างเหมาะสม การขาดทุนต่อเนื่อง 5 ครั้งจึงจะแตะ Daily Drawdown 5% ซึ่งยากหากคุณมีกลยุทธ์ที่ดี วิธีนี้ช่วยให้คุณผ่านช่วงตลาดผันผวนและ Drawdown ของกลยุทธ์ได้อย่างมั่นคง

วางแผนการเทรดอย่างชัดเจน

ห้ามเข้าสู่สนามสอบโดยไม่มีแผน ควรมี Trading Plan ที่เขียนออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุให้ชัดเจนว่า:

  • กลยุทธ์ที่ใช้: เช่น Price Action, Supply/Demand, หรือการใช้ตัวชี้วัดเฉพาะ
  • เงื่อนไขเข้า-ออก: จุดเข้า, จุดตัดขาดทุน, และจุดทำกำไร ต้องชัดเจนทุกครั้ง
  • กฎส่วนตัว: เช่น งดเทรดช่วงข่าว, หยุดเทรดหากเสียติดต่อกัน 2 ครั้ง

การมีแผนที่ชัดเจนช่วยลดอารมณ์เข้ามาแทรกในการตัดสินใจ และทำให้คุณเทรดอย่างมีระบบ

จัดการจิตวิทยาการเทรด

ความกดดันจากการสอบมีจริง หลายคนที่เทรดเดโม่ได้ดี กลับล้มเหลวเมื่อต้องสอบ เพราะจิตใจไม่แข็งพอ การศึกษาเรื่อง จิตวิทยาการเทรด จึงจำเป็น โดยเฉพาะในสถานการณ์ต่อไปนี้:

  • ใกล้ถึงเป้าหมาย: อย่าเร่งปิดกำไรเร็ว หรือเพิ่มล็อตเพื่อให้จบเร็ว ยึดมั่นในแผน
  • ใกล้ละเมิด Drawdown: อย่าพยายาม “เอาคืน” ด้วยการเพิ่มล็อตหรือใช้ Martingale การยอมรับความเสี่ยงและหยุดพักคือทางเลือกที่ฉลาดกว่า

ข้อดีและข้อเสียของการสอบกองทุน Forex

แม้การเป็น Funded Trader จะดูเหมือนโอกาสทอง แต่ก็มีทั้งด้านบวกและด้านลบที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

ข้อดี

  • เข้าถึงเงินทุนขนาดใหญ่: คุณสามารถสร้างรายได้จากกำไรเป็นตัวเงินที่สูงกว่าการเทรดพอร์ตส่วนตัวหลายเท่า
  • ความเสี่ยงจำกัด: ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคือแค่ค่าสอบเท่านั้น คุณไม่ต้องรับผิดชอบการขาดทุนในบัญชีจริง
  • สร้างวินัยการเทรด: กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดบังคับให้คุณต้องมีระเบียบวินัยและบริหารความเสี่ยงอย่างจริงจัง
  • โอกาสเติบโต (Scaling Plan): หากทำผลงานได้ดี คุณอาจได้รับการเพิ่มทุนและสัดส่วนผลกำไรที่สูงขึ้น

ข้อเสีย

  • ต้องลงทุนก่อน: ค่าสอบอาจสูง และไม่มีการรับประกันว่าจะผ่าน
  • ความกดดันจากกฎ: การต้องเทรดภายใต้ข้อจำกัดอาจไม่เหมาะกับทุกสไตล์ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบความยืดหยุ่น
  • ไม่ใช่ทุกกลยุทธ์ที่เข้าได้: กลยุทธ์ที่มี Drawdown สูงหรือต้องการเวลาฟื้นตัวนาน อาจไม่ผ่านเกณฑ์
  • ความเสี่ยงจากบริษัท: บาง Prop Firm อาจปิดตัวลงได้ ดังนั้นควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูง ตามที่ บทความจาก Investopedia ได้วิเคราะห์ไว้

สรุป: การสอบกองทุน Forex เหมาะกับคุณหรือไม่?

การสอบกองทุน Forex เป็นช่องทางที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีทักษะแต่ขาดแคลนเงินทุน มันช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดด้วยขนาดพอร์ตใหญ่ และสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินตัวเองมากนัก

อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ไม่เหมาะกับทุกคน คนที่จะประสบความสำเร็จคือ:

  • มีกลยุทธ์ที่พิสูจน์แล้ว: ควรมีผลงานดีต่อเนื่องในบัญชีเดโม่หรือบัญชีเล็กมาแล้ว 3-6 เดือน
  • มีวินัยสูง: สามารถปฏิบัติตามแผนได้แม้ภายใต้ความกดดัน
  • เข้าใจว่าไม่ใช่การรวยเร็ว: นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพเทรดเดอร์ ไม่ใช่การพนัน

หากคุณเข้าเกณฑ์ การลงทุนค่าสอบอาจเป็นก้าวสำคัญในอาชีพ แต่หากยังเป็นมือใหม่ การฝึกฝนในบัญชีเดโม่ต่อไปคือทางเลือกที่ปลอดภัยและชาญฉลาดกว่า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการสอบกองทุน Forex

สอบกองทุน Forex ผิดกฎหมายในไทยหรือไม่?

การสอบกองทุน Forex ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยบริษัทในต่างประเทศ และเทรดเดอร์มีสถานะเป็นผู้รับจ้างอิสระ (Independent Contractor) ไม่ใช่พนักงาน การกระทำดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายในประเทศไทยโดยตรง อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เกิดขึ้นจากการแบ่งปันผลกำไรถือเป็นเงินได้ที่ต้องนำไปยื่นภาษีตามกฎหมาย

หากสอบไม่ผ่านในครั้งแรก สามารถสอบใหม่ได้หรือไม่?

ได้แน่นอน บริษัท Prop Firm ส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณสมัครสอบใหม่ได้ทันที และบ่อยครั้งจะมีส่วนลดสำหรับการสมัครครั้งถัดไป นอกจากนี้ หากคุณสอบไม่ผ่านแต่จบช่วงเวลาการสอบด้วยผลกำไร (แม้จะไม่ถึงเป้าหมาย) และไม่ละเมิดกฎใดๆ บางบริษัทอาจให้สิทธิ์สอบใหม่ฟรี (Free Retry)

สามารถใช้ Expert Advisor (EA) ในการสอบกองทุนได้ไหม?

ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกองทุน บางแห่งอนุญาตให้ใช้ EA ได้อย่างอิสระ ในขณะที่บางแห่งมีข้อจำกัดที่เข้มงวด เช่น ห้ามใช้ EA ที่ทำการเทรดแบบ Arbitrage, High-Frequency Trading หรือ EA ที่เหมือนกับผู้ใช้งานคนอื่นจำนวนมาก สิ่งสำคัญคือต้องอ่านกฎระเบียบของกองทุนนั้นๆ อย่างละเอียดก่อนสมัคร

ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะถอนกำไรครั้งแรกได้?

โดยทั่วไปแล้ว Prop Firm จะมีรอบการจ่ายเงินที่ชัดเจน เช่น ทุก 14 วัน หรือทุก 30 วัน การถอนเงินครั้งแรกมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณเทรดในบัญชีจริงไปแล้ว 14-30 วัน ขึ้นอยู่กับรอบการจ่ายเงินของบริษัทนั้นๆ

Drawdown คำนวณจาก Equity หรือ Balance?

นี่เป็นคำถามที่สำคัญมาก และคำตอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละกองทุน ส่วนใหญ่แล้ว Max Daily Drawdown จะคำนวณจากจุดที่สูงกว่าระหว่าง Balance ตอนเริ่มต้นวันกับ Equity ที่สูงที่สุดระหว่างวัน ส่วน Max Overall Drawdown มักจะคำนวณจาก Balance เริ่มต้นของบัญชีและไม่ขยับตามกำไร (Static) อย่างไรก็ตาม คุณควรอ่านกฎของแต่ละบริษัทให้ชัดเจนเสมอ

มีข้อจำกัดเรื่องการถือออเดอร์ข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์หรือไม่?

กองทุนส่วนใหญ่อนุญาตให้ถือออเดอร์ข้ามคืนและข้ามสุดสัปดาห์ได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม บางแห่งอาจมีกฎเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดในช่วงที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่มีความผันผวนสูง (News Trading) ซึ่งอาจจำกัดการเปิดออเดอร์ในช่วงเวลานั้นๆ

Profit Split สามารถเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ในอนาคต?

ได้ครับ บริษัท Prop Firm ชั้นนำส่วนใหญ่มีสิ่งที่เรียกว่า Scaling Plan หรือแผนการเติบโต หากคุณสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอตามเงื่อนไขที่กำหนด (เช่น ทำกำไร 10% ภายใน 3-4 เดือน) บริษัทจะพิจารณาเพิ่มขนาดเงินทุนในพอร์ตของคุณ และมักจะเพิ่มสัดส่วน Profit Split ให้ด้วย เช่น จาก 80% เป็น 90%

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *