eurusd คือ ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการทะยานสู่จุดสูงสุดรอบ 4 ปีในปี 2025

Table of Contents

EURUSD ทะยานสู่จุดสูงสุดรอบ 4 ปี: ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังคืออะไร?

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน! เรามาทำความเข้าใจคู่เงินที่มีการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในโลกอย่าง EURUSD กันดีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา คู่เงินคู่นี้ได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญ ด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนทำจุดสูงสุดในรอบ 4 ปี หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้นประมาณ 15% นับตั้งแต่ต้นปี สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือแม้แต่นักเทรดที่มีประสบการณ์ที่ต้องการเจาะลึกการวิเคราะห์ทางเทคนิค การทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ทั้งในเชิงพื้นฐานและเชิงเทคนิค เพื่อให้คุณมองเห็นภาพรวมและเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไปในตลาด

ก่อนที่เราจะลงรายละเอียด คุณเคยสงสัยไหมว่าอะไรคือพลังที่ขับเคลื่อนราคาในตลาด Forex ที่ดูเหมือนจะไร้ทิศทางในบางครั้ง? ในบทความนี้ เราจะคลี่คลายความซับซ้อนนั้นให้คุณทีละขั้นตอน เพื่อให้คุณไม่เพียงแค่เห็นการเคลื่อนไหว แต่เข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังมัน

กราฟแนวโน้มของคู่เงิน EURUSD

ในส่วนนี้ เราสามารถสรุปปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ EURUSD ได้ดังนี้:

  • ภาวะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น
  • ความไม่แน่นอนทางนโยบายและการเมืองในสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนเกิดความลังเล
  • การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดยบริษัท Moody’s ทำให้ความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์ลดลง
ปัจจัย ผลกระทบ
ภาวะอ่อนค่าของดอลลาร์ ทำให้ EURUSD แข็งค่าขึ้น
ความไม่แน่นอนทางการเมือง นักลงทุนลังเลในการลงทุนในดอลลาร์
การลดอันดับเครดิต ลดความเชื่อมั่นในดอลลาร์

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ: ภาวะอ่อนแรงที่เปิดโอกาสให้เงินยูโร

กุญแจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการแข็งค่าอย่างโดดเด่นของ EURUSD ในช่วงที่ผ่านมา คือ ภาวะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือที่เรียกกันว่า “Dollar Weakness” ทำไมเงินดอลลาร์ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งถึงได้อ่อนแรงลงในช่วงนี้? มีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาผสมผสานกัน ทำให้สถานะของเงินดอลลาร์ในสายตาของนักลงทุนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป

ลองนึกภาพเงินดอลลาร์เป็นเหมือนบ้านหลังหนึ่ง เมื่อบ้านหลังนี้เริ่มมีสัญญาณของความไม่มั่นคง ผู้คนก็เริ่มมองหาที่หลบภัยอื่น ปัจจัยเหล่านั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูกันครับ

ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อ EURUSD

ความไม่แน่นอนทางนโยบายและการเมืองในสหรัฐฯ

สิ่งแรกที่สร้างแรงกดดันให้กับเงินดอลลาร์ คือ ความไม่แน่นอนทางนโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หรือมีบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลอย่างเช่น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจมีท่าทีหรือนโยบายที่คาดเดาได้ยาก ความไม่แน่นอนเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความลังเล ไม่มั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในอนาคต เมื่อไรก็ตามที่มีสัญญาณของความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งในกรณีนี้รวมถึงเงินดอลลาร์ด้วย

นอกจากนี้ การตั้งคำถามของ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อบทบาทและทิศทางการดำเนินนโยบายของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็เป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความคลุมเครือ ยิ่งผู้กำหนดนโยบายส่งสัญญาณที่ขัดแย้งหรือไม่สอดคล้องกันมากเท่าไร ตลาดก็จะยิ่งสับสนและเงินดอลลาร์ก็จะยิ่งอ่อนแอลงเท่านั้น

ปัจจัยกดดัน คำอธิบาย
ความไม่แน่นอนทางนโยบาย ทำให้การลงทุนในดอลลาร์ลดน้อยลง
นโยบายขัดแย้ง สร้างความไม่ชัดเจนในทิศทางเศรษฐกิจ

การลดอันดับเครดิตและความกังวลทางการคลัง

อีกปัจจัยสำคัญที่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์คือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางการคลังของสหรัฐฯ การที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่าง Moody’s ได้ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ลง ถือเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ นี่เหมือนกับการที่ธนาคารลดอันดับความน่าเชื่อถือของบุคคล ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาว

การลดอันดับเครดิตนี้ยิ่งตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการคลังของสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเพดานหนี้ ซึ่งมักจะกลับมาเป็นข่าวในช่วงเวลาสำคัญ หากสถานการณ์หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล ย่อมส่งผลกระทบต่อสถานะของเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาวได้

การวิเคราะห์ทางเทคนิคของการเคลื่อนไหวของ EURUSD

สถานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่สั่นคลอนและทองคำที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

โดยปกติแล้ว ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน หรือมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มักจะถูกมองว่าเป็น สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) แต่ในช่วงที่ผ่านมา เรากลับเห็นภาพที่ต่างออกไป ความกังวลเกี่ยวกับนโยบาย การคลัง และทิศทางของเฟด ทำให้สถานะสินทรัพย์ปลอดภัยของเงินดอลลาร์ลดน้อยลง

สิ่งที่ยืนยันแนวโน้มนี้คือการที่ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเลือกที่จะเพิ่มทองคำในคลังสำรองของตนแทนที่จะเพิ่มเงินดอลลาร์ นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่สะท้อนให้เห็นถึงการกระจายความเสี่ยงและท่าทีที่ระมัดระวังต่ออนาคตของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก และเมื่อความต้องการเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ย่อมส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นอย่างเงินยูโร

แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย: สหรัฐฯ อาจลดดอกเบี้ยเร็วกว่ายูโรโซน?

อีกปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินคือนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง โดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ามักจะแข็งค่ากว่า เพราะให้ผลตอบแทนในการถือครองสูงกว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนเริ่มมองเห็นโอกาสในการลดดอกเบี้ยในสหรัฐฯ มากกว่าในยูโรโซน

แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แต่สัญญาณทางเศรษฐกิจบางอย่าง และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล (เช่น มาตรการเก็บภาษีการค้าของทรัมป์ที่ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของสหรัฐฯ แย่ลง) ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ในทางกลับกัน แนวโน้มเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ดูดีขึ้น ทำให้นักลงทุนมองว่าอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะไม่ถูกลดลงเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ หรืออาจทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบันไปอีกระยะ ความคาดหวังที่แตกต่างกันนี้เองที่สร้างแรงกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร

ยูโรโซน: ความหวังที่กำลังก่อตัวและปัจจัยหนุนเงินยูโร

ในขณะที่เงินดอลลาร์กำลังเผชิญแรงกดดัน เงินยูโรกลับได้รับปัจจัยหนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ตัวชี้วัดสำคัญอย่างหนึ่งคือ ดัชนีความประหลาดใจทางเศรษฐกิจ (Economic Surprise Index) สำหรับยูโรโซน ซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีนี้สะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาจริงนั้นดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นี่เป็นสัญญาณเชิงบวกอย่างยิ่ง เพราะบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนกำลังฟื้นตัวหรือเติบโตได้ดีกว่าที่ตลาดประเมินไว้แต่แรก เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ย่อมเพิ่มความเชื่อมั่นในสกุลเงินของภูมิภาคนั้นๆ

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการออกพันธบัตรร่วมในยูโรโซนอีกครั้ง หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการสร้างสินทรัพย์ที่ถือว่าปลอดภัยสำหรับทั้งภูมิภาค และอาจเพิ่มความต้องการพันธบัตรยุโรปที่ปลอดภัย ซึ่งจะนำไปสู่การหนุนให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นในระยะยาว นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า หากปัจจัยนี้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม อาจผลักดันให้ EURUSD ขึ้นไปได้สูงถึงระดับ 1.40 ได้เลยทีเดียว นี่คือปัจจัยเชิงโครงสร้างที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของคู่เงินนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ

มุมมองทางเทคนิค: EURUSD ทะลุแนวต้านสำคัญแล้วหรือยัง?

นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็มีความสำคัญไม่แพ้กันในการทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของ EURUSD

เมื่อพิจารณาจากกราฟ เราจะเห็นว่า EURUSD ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและทะลุแนวต้านสำคัญหลายระดับไปแล้ว เช่น ระดับ 1.16, 1.1250, และ 1.1450 การทะลุแนวต้านเหล่านี้บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งและยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง

แนวต้านถัดไปที่นักเทรดหลายคนจับตาดูคือระดับ 1.19 ซึ่งหากทะลุระดับนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปที่สำคัญคือระดับ 1.23 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2021 การเคลื่อนไหวในปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับช่วงปี 2022/2023 ในแง่ของรูปแบบ แต่การวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่า นี่อาจยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของคลื่นขาขึ้นที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 และปี 2020 ด้วยซ้ำ หมายความว่ายังมีโอกาสที่ EURUSD จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานและโมเมนตัมของตลาด

ปัจจัยตามฤดูกาลและเหตุการณ์ระยะสั้นที่ต้องจับตา

นอกจากแนวโน้มระยะกลางและระยะยาวแล้ว ยังมีปัจจัยระยะสั้นและปัจจัยตามฤดูกาลที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของ EURUSD ได้

จากการเก็บข้อมูลในอดีต เดือนกรกฎาคมมักเป็นเดือนที่เงินดอลลาร์อ่อนค่า โดยอิงจากข้อมูลย้อนหลัง 20 ปี แม้ว่าปัจจัยตามฤดูกาลจะไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่แน่นอน 100% แต่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดที่มองหาแนวโน้มระยะสั้น

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญเฉพาะหน้าที่ต้องจับตา เช่น วันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดยกเลิกการเก็บภาษี (ในบริบทของข้อตกลงการค้าบางอย่าง) หากมีการบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ชัดเจนและเป็นบวก อาจส่งผลหนุนเงินดอลลาร์ได้ชั่วคราว ในขณะที่ในช่วงเดือนสิงหาคม คาดว่าจะกลับมาเผชิญประเด็นเพดานหนี้สหรัฐฯ อีกครั้ง ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อตลาดและเงินดอลลาร์ หากไม่สามารถตกลงกันได้ทันเวลา เหตุการณ์เหล่านี้อาจสร้างความผันผวนให้กับ EURUSD ในระยะสั้นได้

ความเสี่ยงในการลงทุนในคู่เงิน EURUSD และ CFD ที่คุณควรรู้

แม้ว่าการปรับตัวขึ้นของ EURUSD จะดูน่าสนใจและเปิดโอกาสในการทำกำไร แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณซื้อขายคู่เงินนี้ผ่านตราสารอย่าง CFD (Contracts for Difference) หรือ ตราสารอนุพันธ์ รูปแบบการลงทุนเหล่านี้มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงมาก และอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว

เหตุผลหลักคือการใช้ ระบบเลเวอเรจ (Leverage) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่กว่าเงินทุนที่คุณมีอยู่จริงได้หลายเท่าตัว เลเวอเรจเป็นเหมือนดาบสองคม มันสามารถขยายผลกำไรของคุณได้มหาศาลในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวตามที่คุณคาดการณ์ แต่ในทางกลับกัน มันก็สามารถขยายผลขาดทุนของคุณได้เช่นกัน ทำให้คุณมีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สถิติที่น่ากังวลคือ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ขาดทุนจากการเทรดด้วย CFD นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม ราคาของคู่เงินอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกมากมาย เช่น เหตุการณ์ทางการเงินที่ไม่คาดคิด กฎหมายกำกับดูแลใหม่ๆ หรือแม้แต่เหตุการณ์ทางการเมืองระดับโลก ซึ่งคุณอาจไม่สามารถควบคุมหรือคาดการณ์ได้

คุณควรตระหนักถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนตัดสินใจลงทุน พิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุนของคุณ ระดับประสบการณ์ และที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง หากคุณไม่แน่ใจหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม การแสวงหาคำแนะนำจากมืออาชีพด้านการเงินที่มีใบอนุญาตเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง จำไว้ว่า การลงทุนที่ชาญฉลาดเริ่มต้นจากการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดการซื้อขายคู่เงิน หรือกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือสำหรับการเทรดตราสารทางการเงินต่างๆ เช่น CFD ที่ครอบคลุมคู่เงินอย่าง EURUSD รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย Moneta Markets อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือและบริการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของนักเทรดหลากหลายระดับ และมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ

การเลือกแพลตฟอร์มและเครื่องมือช่วยเทรด

สำหรับการวิเคราะห์และการซื้อขาย การมีแพลตฟอร์มที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมาก แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง TradingView เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักเทรดและนักลงทุนทั่วโลก มันมีเครื่องมือการวิเคราะห์ที่หลากหลาย เช่น ซูเปอร์ชาร์ต ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์กราฟราคาได้อย่างละเอียด, ตัวคัดกรอง (Screeners) สำหรับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (หุ้น, ETF, ตราสารหนี้, คริปโต), ฮีทแมพ (Heatmap), ปฏิทินเศรษฐกิจ, และปฏิทินผลประกอบการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจซื้อขาย

TradingView ยังเป็นแหล่งรวมสคริปต์และแนวคิดการเทรดที่ผู้ใช้แบ่งปันกันกว่า 10 ล้านรายการ ซึ่งเป็นคลังความรู้ขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้ได้ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มที่ดีมักจะรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น มีแอปพลิเคชันบนมือถือที่มีคะแนนรีวิวสูง เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการเทรดแม้ในขณะเดินทาง

เมื่อพูดถึงการเลือกโบรกเกอร์เพื่อทำการซื้อขายจริงๆ คุณควรพิจารณาโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือในหลายประเทศ/เขตอำนาจศาล (เช่น FCA ในสหราชอาณาจักร, CySEC ในไซปรัส, ASIC ในออสเตรเลีย, FSCA ในแอฟริกาใต้ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลจากแหล่งอื่นอาจกล่าวถึงโบรกเกอร์อย่าง ATFX หรือ ThinkMarkets เป็นตัวอย่าง) การเลือกโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวดจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับเงินทุนของคุณได้ระดับหนึ่ง

หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ และมีเครื่องมือการเทรดที่ครบครันเพื่อการเข้าถึงตลาด Forex และ CFD อย่างมีประสิทธิภาพ Moneta Markets ก็เป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณา ด้วยการสนับสนุนแพลตฟอร์มเทรดยอดนิยมอย่าง MT4, MT5, และ Pro Trader พร้อมจุดเด่นเรื่องความเร็วในการส่งคำสั่งและค่าสเปรดที่แข่งขันได้ ช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนและดำเนินการเทรดได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

บทสรุป: เข้าใจปัจจัยรอบด้าน เพื่อก้าวเดินอย่างมั่นคง

การที่คู่เงิน EURUSD ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 4 ปีนั้น ไม่ใช่เพียงการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ที่มาจากการผสมผสานของปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งจากภาวะอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้รับแรงกดดันจากประเด็นเชิงโครงสร้างและนโยบายในสหรัฐฯ และจากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเงินยูโร ซึ่งได้แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในยูโรโซนและความเป็นไปได้ในการออกพันธบัตรร่วม

นอกจากนี้ ปัจจัยทางเทคนิคก็ส่งสัญญาณเชิงบวก โดยราคาได้ทะลุแนวต้านสำคัญหลายระดับไปแล้ว และยังมีเป้าหมายทางเทคนิคที่น่าสนใจรออยู่เบื้องหน้า

อย่างไรก็ตาม ดังที่เราได้เน้นย้ำไปแล้ว ตลาด Forex โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการใช้เลเวอเรจ มีความผันผวนสูง และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนมีสูงมาก คุณในฐานะนักลงทุน ควรใช้ข้อมูลที่เราได้วิเคราะห์และกลั่นกรองมานี้ เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และวางแผนการเทรดอย่างรอบคอบอยู่เสมอ การทำความเข้าใจปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยทางเทคนิค หรือแม้แต่ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ จะช่วยให้คุณสามารถก้าวเดินในตลาดการเงินได้อย่างมั่นคงและมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับeurusd คือ

Q:EURUSD คืออะไร?

A:EURUSD คือคู่เงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินยูโรและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

Q:ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อราคา EURUSD?

A:มีหลายปัจจัย เช่น นโยบายการเงิน ความไม่แน่นอนทางการเมือง และข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ

Q:การซื้อขาย EURUSD มีความเสี่ยงหรือไม่?

A:การซื้อขาย EURUSD มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้เลเวอเรจ สามารถก่อให้เกิดขาดทุนได้เร็ว

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *