ทำความรู้จักกับ DRx: ตราสารการลงทุนที่น่าสนใจในประเทศไทย

Table of Contents

DRx คืออะไร? ทำความรู้จักตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

ภาพประกอบการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับนักลงทุนไทย

DRx หรือที่ย่อมาจาก Fractional Depositary Receipt เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงหุ้นบริษัทชั้นนำระดับโลกและกองทุน ETF ข้ามประเทศได้ง่ายกว่าเดิม โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเปิดบัญชีในตลาดต่างประเทศหรือจัดการเรื่องสกุลเงินเอง ทั้งหมดนี้เพราะ DRx เป็นตราสารที่จดทะเบียนและซื้อขายได้โดยตรงในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยใช้เงินบาทในการลงทุนและทำรายการผ่านแอปพลิเคชันซื้อขายหุ้นที่คุ้นเคย เช่น SETTRADE Streaming หรือแอปจากโบรกเกอร์ชั้นนำ

แนวคิดหลักของ DRx คือการ “ย่อยหน่วย” หุ้นต่างประเทศที่มีราคาสูงมาก เช่น หุ้นของ Apple หรือ Tesla ให้กลายเป็นหน่วยย่อยที่สามารถซื้อขายได้ในมูลค่าที่ถูกลง โดยที่ 1 หน่วย DRx อาจไม่ได้เท่ากับ 1 หุ้นเต็มของบริษัทอ้างอิง แต่จะถูกกำหนดอัตราส่วนโดยผู้ออกตราสาร เช่น 1 หุ้น Apple = 1,000 DRx ทำให้นักลงทุนที่มีเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาทก็สามารถเป็นเจ้าของ “หุ้น Apple” ในรูปแบบย่อยได้ทันที

จุดเด่นนี้ช่วยลดอุปสรรคสำคัญของการลงทุนข้ามประเทศ ที่เคยต้องใช้เงินจำนวนมาก ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ และจัดการเรื่องแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ทำให้ DRx เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์โลก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี สื่อ หรือเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยไม่ต้องมีเงินทุนสูงหรือความรู้ซับซ้อนเกินไป

ความแตกต่างระหว่าง DR และ DRx ที่นักลงทุนควรเข้าใจ

แม้ DR และ DRx จะมีพื้นฐานเดียวกันคือเป็นตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างเชิงปฏิบัติที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์และกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละบุคคล

  • กระดานซื้อขาย: DR ซื้อขายบนกระดานหลัก (Main Board) เหมือนหุ้นทั่วไป ส่วน DRx จะอยู่บนกระดานเฉพาะชื่อว่า “Fractional Share Board” แยกต่างหาก ทำให้มีระบบการจับคู่ราคาที่ปรับให้เหมาะกับการซื้อขายหน่วยย่อย
  • หน่วยการซื้อขาย: DR ใช้หน่วยการซื้อขายแบบ Board Lot เช่น 100 หน่วยขึ้นไป แต่ DRx มีความยืดหยุ่นสูงมาก นักลงทุนสามารถสั่งซื้อตั้งแต่ 0.0001 หน่วย หรือระบุเป็น “จำนวนเงินบาท” ที่ต้องการลงทุน เช่น ซื้อ AAPL80X ด้วยเงิน 800 บาท ระบบจะคำนวณจำนวนหน่วยให้อัตโนมัติ
  • ความเหมาะสม: ด้วยความยืดหยุ่นนี้ ทำให้ DRx เหมาะกับการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือการทยอยซื้อสม่ำเสมอ แม้มีเงินทุนจำกัด ในขณะที่ DR มักเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อในปริมาณมากหรือมองหาความคล่องตัวในระยะยาว

การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

รวมรายชื่อ DRx ทั้งหมดในประเทศไทย (อัปเดตล่าสุด)

ภาพประกอบแอปพลิเคชันลงทุนสำหรับนักลงทุนไทย

ปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมี DRx ให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ บริษัทในเครือของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไปจนถึงกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนีสำคัญของสหรัฐฯ นี่คือรายชื่อ DRx ที่มีการซื้อขายอยู่จริงในตลาด ซึ่งอัปเดตตามข้อมูลล่าสุดจาก SET เพื่อความแม่นยำ นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ชื่อย่อ (Symbol) ชื่อบริษัท / ETF อ้างอิง ตลาดหลักทรัพย์อ้างอิง
AAPL80X Apple Inc. NASDAQ
TSLA80X Tesla, Inc. NASDAQ
NVDA80X NVIDIA Corporation NASDAQ
MSFT80X Microsoft Corporation NASDAQ
GOOGL80X Alphabet Inc. (Class A) NASDAQ
BABA80X Alibaba Group Holding Limited NYSE
META80X Meta Platforms, Inc. NASDAQ
AMD80X Advanced Micro Devices, Inc. NASDAQ
ASML80X ASML Holding N.V. NASDAQ
BRKB80X Berkshire Hathaway Inc. (Class B) NYSE
DIS80X The Walt Disney Company NYSE
SBUX80X Starbucks Corporation NASDAQ
NDX80X Invesco QQQ Trust (ETF) NASDAQ
SPY500 SPDR S&P 500 ETF Trust (ETF) NYSE Arca
HKCE80X iShares FTSE China A50 ETF SEHK

สำหรับนักลงทุนที่ใช้บริการจาก Moneta Markets ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่เน้นการให้ข้อมูลวิเคราะห์และเครื่องมือช่วยตัดสินใจอย่างมืออาชีพ สามารถใช้ข้อมูล DRx ข้างต้นร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีและ ETF ที่มีความผันผวนสูงแต่เติบโตต่อเนื่อง

จัดกลุ่ม DRx ตามอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ

การจัดกลุ่ม DRx ตามอุตสาหกรรมจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของการกระจายพอร์ตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากคุณต้องการเน้นการลงทุนในภาคส่วนใดเป็นพิเศษ

กลุ่มเทคโนโลยี (Technology)

เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล

  • AAPL80X (Apple): ผู้นำด้านนวัตกรรมในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และระบบนิเวศของบริการดิจิทัลที่แข็งแกร่ง
  • MSFT80X (Microsoft): ไม่เพียงเป็นเจ้าของ Windows และ Office แต่ยังเป็นผู้เล่นหลักใน Cloud Computing ผ่าน Azure และลงทุนเชิงรุกในเทคโนโลยี AI
  • GOOGL80X (Alphabet): บริษัทแม่ของ Google และ YouTube ที่มีรายได้หลักจากโฆษณาออนไลน์และกำลังขยายไปสู่ด้าน AI และ Cloud
  • NVDA80X (NVIDIA): ผู้นำตลาดชิป GPU ที่กลายเป็น “ทองคำ” ของยุค AI ด้วยความต้องการใช้พลังประมวลผลสูงในศูนย์ข้อมูล
  • TSLA80X (Tesla): ผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ที่ไม่เพียงผลิตรถแต่ยังพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและแบตเตอรี่
  • META80X (Meta): บริษัทที่พลิกตัวเองสู่ Metaverse และลงทุนหนักใน AI ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก

กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Discretionary & Staples)

กลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งแม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ก็ยังมีบริษัทที่รักษาเสถียรภาพได้ดี

  • BABA80X (Alibaba): ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซและบริการด้านการเงินในจีน ที่มีอิทธิพลต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
  • DIS80X (Disney): บริษัทบันเทิงแบบครบวงจร ทั้งภาพยนตร์ สวนสนุก และบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ที่ขยายฐานผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
  • SBUX80X (Starbucks): เชนกาแฟระดับโลกที่มีความภักดีจากลูกค้าสูง และขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในจีนและเอเชีย

กลุ่มการลงทุนและ ETF (Investment & ETFs)

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงโดยไม่ต้องเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว

  • BRKB80X (Berkshire Hathaway): บริษัทโฮลดิ้งของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น Apple, Bank of America และ Coca-Cola
  • NDX80X (QQQ ETF): ติดตามดัชนี NASDAQ-100 ที่รวมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 100 แห่งของสหรัฐฯ ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงในยุคดิจิทัล
  • SPY500 (SPDR S&P 500 ETF): ติดตามดัชนี S&P 500 ที่เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่ง ถือเป็นการลงทุนใน “ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ”

ข้อดีของการลงทุนใน DRx มีอะไรบ้าง?

DRx ไม่ใช่แค่ทางเลือกใหม่ แต่เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนเกมการลงทุนข้ามประเทศให้เข้าถึงได้จริงสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่ต้องการความสะดวกและปลอดภัย

  • เริ่มต้นลงทุนด้วยงบน้อย: ไม่จำเป็นต้องมีเงินหมื่นหรือแสนเพื่อซื้อหุ้นต่างประเทศ แม้มีเงิน 100 หรือ 500 บาท ก็สามารถซื้อหุ้น Apple หรือ Tesla ได้ทันทีในรูปแบบ DRx
  • ซื้อขายผ่านแอปที่คุ้นเคย: ใช้บัญชีเดิมที่มีอยู่กับโบรกเกอร์ในไทย ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่หรือผูกบัญชีกับต่างประเทศ ลดความซับซ้อนและเวลา
  • ใช้เงินบาทโดยตรง: ตัดปัญหาการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในขั้นตอนการซื้อขาย ทุกรายการแสดงเป็นเงินบาท ช่วยลดความกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ณ จุดตัดสินใจ
  • ได้รับสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกับการถือหุ้นจริง: ผู้ถือ DRx จะได้รับเงินปันผล (หลังหักภาษีและค่าใช้จ่าย) ตามสัดส่วนของหน่วยที่ถือ ซึ่งเป็นข้อดีเหนือกว่าการลงทุนในกองทุนรวมบางประเภท
  • ความโปร่งใสและกำกับดูแล: DRx จดทะเบียนอย่างถูกต้องภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้มีรายงานข้อมูลเปิดเผย และมั่นใจในความปลอดภัย
  • ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามประเทศ หรือค่าดูแลหลักทรัพย์ (Custody Fee) ซึ่งมักพบในการลงทุนต่างประเทศโดยตรง

วิธีการซื้อขายและลงทุนใน DRx ทีละขั้นตอน

การเริ่มต้นลงทุนใน DRx ไม่ซับซ้อน แม้คุณจะเป็นมือใหม่ ก็สามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที

  1. เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น: หากยังไม่มีบัญชี ให้เลือกเปิดกับบริษัทหลักทรัพย์ที่รองรับ DRx ซึ่งส่วนใหญ่ของไทย เช่น กสิกร ซีไอเอ็มบี ทิสโก้ หรือ Moneta Markets ที่ให้บริการทั้งข้อมูลและเครื่องมือซื้อขายอย่างครบวงจร
  2. เข้าสู่แอปพลิเคชัน Streaming: ใช้ข้อมูลการเข้าสู่ระบบจากโบรกเกอร์ที่ท่านสมัคร
  3. ค้นหาชื่อย่อ DRx: พิมพ์ชื่อย่อ เช่น “NVDA80X” หรือ “SPY500” ในช่องค้นหาหลักทรัพย์
  4. เปลี่ยนกระดานซื้อขายเป็น “DRX”: จุดสำคัญที่มักถูกละเลย ต้องเปลี่ยนจาก “MAIN” หรือ “AUTO” เป็น “DRX” ก่อนส่งคำสั่ง เพราะหากไม่ทำ ระบบจะไม่พบข้อมูลราคาหรือรับคำสั่ง
  5. ส่งคำสั่งซื้อ: ในหน้า DRx จะมีตัวเลือก 2 แบบ
    • ซื้อตามจำนวนหน่วย: ใส่จำนวนหน่วย เช่น 1.5 หน่วย
    • ซื้อตามจำนวนเงิน: ระบุเป็นบาท เช่น 1,200 บาท ระบบจะคำนวณจำนวนหน่วยให้ทันที
  6. ยืนยันคำสั่ง: ตรวจสอบราคา จำนวนหน่วย และมูลค่ารวมก่อนกดยืนยันด้วย PIN

เปรียบเทียบการลงทุน: DRx vs. หุ้นต่างประเทศโดยตรง vs. ETF

การเลือกช่องทางการลงทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และความสะดวกของนักลงทุนแต่ละคน ตารางด้านล่างช่วยสรุปข้อดี-ข้อเสียของแต่ละช่องทาง

มิติการเปรียบเทียบ DRx หุ้นต่างประเทศโดยตรง กองทุนรวม/ETF ต่างประเทศ
เงินลงทุนขั้นต่ำ ต่ำมาก (เริ่มต้นหลักร้อยบาท) สูง (ราคาหุ้นเต็ม) ต่ำ (หลักพันบาท)
ความสะดวกในการซื้อขาย สูงมาก (ผ่านแอปไทย) ซับซ้อน (ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ) สูง (ผ่าน บลจ. หรือโบรกเกอร์)
สกุลเงินที่ใช้ เงินบาท ดอลลาร์ หรือสกุลต่างประเทศ เงินบาท
ค่าธรรมเนียม เหมือนหุ้นไทย สูง (ค่าคอมมิชชั่น + ค่าโอนเงิน) ค่าธรรมเนียมจัดการรายปี
การจัดการภาษี ง่าย (โบรกเกอร์หักและแจ้งให้) ซับซ้อน (ต้องยื่นภาษีต่างประเทศเอง) ง่าย (กองทุนจัดการให้)
ความหลากหลายของสินค้า จำกัด (เฉพาะที่ SET อนุมัติ) สูงมาก (เข้าถึงทุกหุ้นในตลาด) หลากหลาย (ขึ้นอยู่กับ บลจ.)

ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาก่อนลงทุนใน DRx

แม้ DRx จะมีข้อดีมากมาย แต่นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เอกสารเปิดเผยข้อมูลของผู้ออกตราสาร

  • ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: แม้ซื้อขายเป็นเงินบาท แต่เมื่อหุ้นอ้างอิงให้ผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์ การแข็งค่าของบาทอาจทำให้ผลตอบแทนเป็นบาทลดลง
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง: DRx บางตัวที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย อาจทำให้ราคาผันผวนมากหรือจับคู่คำสั่งได้ช้า
  • ความคลาดเคลื่อนของราคา (Tracking Error): ราคา DRx อาจไม่เคลื่อนไหวตามหุ้นแม่แบบเรียลไทม์ทุกช่วง เนื่องจากช่วงเวลาทำการต่างกันและอุปสงค์ในตลาดไทย
  • ความเสี่ยงของหลักทรัพย์อ้างอิง: หากบริษัทอ้างอิงมีปัญหาด้านการดำเนินงาน กำไรลด หรือตลาดหุ้นตก ราคา DRx ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

DR กับ DRx แตกต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างสำคัญคือ DR ซื้อขายเป็นหน่วยเต็มบนกระดานหลัก เช่น 100 หน่วยขึ้นไป ในขณะที่ DRx สามารถซื้อขายเป็นเศษส่วนได้ ตั้งแต่ 0.0001 หน่วย และมีกระดานซื้อขายแยกต่างหาก ทำให้เหมาะกับผู้ลงทุนที่มีงบน้อยหรือต้องการยืดหยุ่นในการลงทุน

ลงทุนใน DRx ต้องเสียภาษีเงินปันผลเหมือนหุ้นไทยหรือไม่?

ใช่ นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลหลังหักภาษี ณ ที่จ่ายจากประเทศต้นทางและค่าใช้จ่ายแล้ว เงินปันผลนี้จะถูกรวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในไทย คล้ายกับหุ้นไทย

DRx ที่น่าสนใจในปี 2567-2568 มีตัวไหนบ้าง?

กลุ่มที่ยังได้รับความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ หุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น NVDA80X, MSFT80X และ GOOGL80X รวมถึง ETF อย่าง NDX80X และ SPY500 ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงในตลาดสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานและแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อนตัดสินใจ

เงินลงทุนขั้นต่ำในการซื้อ DRx คือเท่าไหร่?

ไม่มีขั้นต่ำตายตัว นักลงทุนสามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่ 0.0001 หน่วย หรือระบุเป็นจำนวนเงินบาท เช่น 100 บาท หรือ 300 บาท ทำให้สามารถเริ่มต้นได้ง่ายมาก

เวลาเปิด-ปิด ของตลาด DRx คือช่วงเวลากี่โมง?

ตลาด DRx เปิดซื้อขายในช่วงกลางคืนของไทย เพื่อสอดคล้องกับเวลาตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยปกติเปิดตั้งแต่เวลา 20:00 น. ถึง 04:00 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนตามช่วง Daylight Saving Time

ทำไมราคา DRx ถึงไม่เคลื่อนไหวตามหุ้นแม่แบบเรียลไทม์?

เพราะราคา DRx ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ 1) ราคาหุ้นแม่ในตลาดต่างประเทศ และ 2) อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ ณ เวลาที่ทำการซื้อขาย รวมถึงอุปสงค์-อุปทานของ DRx เองในตลาดไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย

เราสามารถดูรายชื่อ DRx ทั้งหมดได้จากที่ไหน?

นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อ DRx ทั้งหมดและข้อมูลสำคัญได้ที่เว็บไซต์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือผ่านแอป SETTRADE Streaming

หากต้องการลงทุน DRx ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ไหนได้บ้าง?

บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำส่วนใหญ่ในประเทศไทยรองรับการซื้อขาย DRx แล้ว รวมถึง Moneta Markets ที่ให้บริการทั้งการซื้อขายและเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง นักลงทุนสามารถสอบถามโบรกเกอร์ที่ใช้งานอยู่หรือดูรายชื่อผ่านเว็บไซต์ SET

ภาพประกอบนักลงทุนไทยใช้แอปลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *