Copy Trade คืออะไร? เข้าใจหลักการทำงานสำหรับผู้เริ่มต้น
Copy Trade หรือที่บางครั้งเรียกว่า Social Trading เป็นรูปแบบการลงทุนที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถคัดลอกการซื้อขายจากนักเทรดมืออาชีพที่มีประสบการณ์ หรือที่เรียกว่า “Master Trader” หรือ “ผู้ให้สัญญาณ (Signal Provider)” โดยระบบจะดำเนินการซื้อขายให้อัตโนมัติในบัญชีของผู้คัดลอก ทันทีที่ Master Trader เปิดหรือปิดตำแหน่งการเทรดในตลาดใด ๆ บัญชีของคุณก็จะดำเนินการตามในสัดส่วนเงินทุนที่คุณกำหนดไว้

วิธีการทำงานของ Copy Trade นั้นตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย คุณเพียงแค่เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการนี้ เปิดบัญชี ฝากเงิน และเลือก Master Trader ที่คุณชื่นชอบจากแพลตฟอร์ม จากนั้นเมื่อคุณกด “คัดลอก” ระบบจะเชื่อมต่อบัญชีของคุณเข้ากับบัญชีของเทรดเดอร์คนนั้นโดยอัตโนมัติ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะถูกสะท้อนในพอร์ตคุณทันที ไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอหรือวิเคราะห์กราฟเอง
ด้วยความสะดวกนี้ ทำให้ Copy Trade เหมาะกับกลุ่มผู้ลงทุนหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น:
- มือใหม่หัดลงทุน: ผู้ที่ยังไม่มีพื้นฐานด้านการวิเคราะห์เทคนิคหรือติดตามข่าวเศรษฐกิจ สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์
- คนทำงานที่ไม่มีเวลา: สำหรับผู้ที่มีภาระงานประจำหรือต้องบริหารธุรกิจเอง ไม่สามารถนั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน ก็ยังสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง
- ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ผ่านการสังเกต: การคัดลอกเทรดเดอร์เก่ง ๆ ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่ยังเป็นโอกาสในการศึกษาแนวทางการตัดสินใจ กลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยงของคนที่ประสบความสำเร็จ
5 เกณฑ์สำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Copy Trade ที่ดีที่สุด
การเลือกโบรกเกอร์เป็นก้าวแรกที่มีผลต่อความปลอดภัยและความสำเร็จในระยะยาว เพราะไม่ต่างจากการเลือกสถานที่เก็บรักษาเงินทุนของคุณ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นกับโบรกเกอร์เจ้าไหน ควรพิจารณาจาก 5 ข้อนี้อย่างรอบคอบ
1. ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาตกำกับดูแล
โบรกเกอร์ที่มีมาตรฐานต้องได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในระดับสากล เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส), ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ MAS (สิงคโปร์) การมีใบอนุญาตเหล่านี้หมายความว่าบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความโปร่งใส การแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท และต้องมีทุนสำรองเพียงพอ ข้อมูลนี้มักจะระบุไว้ชัดเจนที่ด้านล่างของเว็บไซต์
2. ค่าธรรมเนียมและสเปรด
ต้นทุนการเทรดส่งผลโดยตรงต่อกำไรสุทธิ ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ต้องจ่าย ได้แก่ สเปรด (ส่วนต่างระหว่างราคา Bid กับ Ask) ที่โบรกเกอร์เรียกเก็บในทุกคำสั่งซื้อขาย และ ค่าส่วนแบ่งกำไร (Performance Fee) ที่จ่ายให้ Master Trader เมื่อคุณทำกำไรได้ ซึ่งมักอยู่ที่ 10-30% ควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างโบรกเกอร์อย่างละเอียด เพราะแม้ต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อรวมกันในระยะยาวก็ส่งผลต่างชัดเจน
3. คุณภาพของ Master Trader
โบรกเกอร์ที่ดีควรให้ข้อมูลของ Master Trader อย่างโปร่งใส คุณควรสามารถเข้าถึงประวัติการเทรด ผลตอบแทนย้อนหลัง (Return), ระดับความเสี่ยง (Risk Score), การขาดทุนสูงสุด (Max Drawdown), จำนวนผู้ติดตาม และระยะเวลาที่เปิดเทรดมาแล้ว การพิจารณาเหล่านี้ช่วยให้คุณเลือกคนที่มีสไตล์การลงทุนสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ

4. แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้ทิ้งโบรกเกอร์คือแพลตฟอร์มที่ซับซ้อนหรือล้าสมัย แพลตฟอร์ม Copy Trade ควรมีอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย ค้นหา Master Trader ได้สะดวก ตั้งค่าการคัดลอกได้รวดเร็ว และสามารถติดตามผลการลงทุนได้ทั้งผ่านคอมพิวเตอร์และแอปมือถือ ความลื่นไหลในการใช้งานช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ต
5. การฝาก-ถอนเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย
สำหรับนักลงทุนชาวไทย การฝาก-ถอนเงินที่รวดเร็วและรองรับช่องทางในประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ โบรกเกอร์ที่ดีควรมีระบบการเงินที่มั่นคง รองรับธนาคารชั้นนำของไทยผ่าน Internet Banking หรือ Thai QR Payment ทั้งยังต้องมีเวลาการดำเนินการถอนเงินที่สั้น (บางแห่งทำได้ภายในไม่กี่นาที) เพื่อให้คุณเข้าถึงเงินทุนได้ทันเวลาเมื่อต้องการ
เปรียบเทียบ 5 โบรกเกอร์ Copy Trade ยอดนิยมสำหรับนักลงทุนไทย
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เรามาดูรายชื่อโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักลงทุนชาวไทย พร้อมวิเคราะห์จุดแข็งและข้อควรพิจารณาของแต่ละเจ้าอย่างละเอียด
1. Exness – โบรกเกอร์ที่เร็ว เสถียร และเหมาะสำหรับมือใหม่
Exness ครองใจนักลงทุนไทยมายาวนาน ด้วยระบบ Social Trading ของตัวเองที่ใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการความเรียบง่ายและรวดเร็ว
จุดเด่น:
- แพลตฟอร์มที่ใช้ง่าย: แอปมือถือ Social Trading ออกแบบมาให้ใช้เพียงไม่กี่คลิกก็สามารถค้นหาและคัดลอก Master Trader ได้ทันที
- เงินฝากขั้นต่ำต่ำ: เริ่มต้นได้ที่ $1 สำหรับบัญชี Standard ทำให้เข้าถึงได้ง่าย
- ฝาก-ถอนรวดเร็ว: เอกลักษณ์ของ Exness คือการถอนเงินที่เร็วมาก มักเข้าบัญชีในไม่กี่นาที และรองรับธนาคารไทยโดยตรง
จากคำพูดในชุมชนออนไลน์ เช่น กระทู้ใน Pantip ที่ตั้งคำถามว่า “Copy Trade Exness ดีไหม” คำตอบส่วนใหญ่ชื่นชมในด้านความเร็วและเสถียรภาพของระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายเตือนว่าควรตรวจสอบระดับความเสี่ยงของ Master ที่เลือก เพราะบางรายใช้กลยุทธ์ High Risk ที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่ขาดทุนรุนแรงได้
2. XM – โบรกเกอร์ระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือสูง
XM เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ใหญ่ที่สุดในตลาด ด้วยใบอนุญาตจาก CySEC และ ASIC ทำให้มีความโปร่งใสและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก ระบบ Copy Trading ของ XM ทำงานผ่าน MT4 และ MT5 โดยตรง
จุดเด่น:
- ความน่าเชื่อถือสูง: ผ่านการกำกับดูแลจากหลายหน่วยงาน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้
- โปรโมชั่นและโบนัสดี: มีโบนัสต้อนรับและโปรโมชั่นต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มทุนเริ่มต้น
- มี Master Trader หลากหลาย: เทรดเดอร์จากหลายประเทศ ให้คุณเลือกกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น Scalping, Swing หรือ Position Trading
จากมุมมองของผู้ใช้ใน Pantip หรือคำถาม “XM Copy Trade Pantip” ส่วนใหญ่ให้คะแนนด้านความน่าเชื่อถือและบริการลูกค้าสูง แต่ควรทราบว่าค่าสเปรดในบางบัญชีอาจสูงกว่าคู่แข่ง และอาจเกิด Slippage ได้ในช่วงข่าวใหญ่
3. IUX Markets – โบรกเกอร์ทางเลือกที่มาแรงด้วยค่าสเปรดต่ำ
IUX Markets เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในไทย ด้วยจุดขายเรื่องค่าสเปรดต่ำและโบนัสดึงดูด สำหรับคำถามว่า “IUX มี Copy Trade ไหม” คำตอบคือมี โดยใช้แพลตฟอร์มเฉพาะของตัวเอง
จุดเด่น:
- สเปรดต่ำ: ให้ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ต่ำในสินทรัพย์หลายประเภท ช่วยเพิ่มอัตรากำไรในระยะยาว
- ระบบคัดลอกใช้ง่าย: สามารถกรอง Master Trader ตามผลตอบแทน, ความเสี่ยง หรือจำนวนผู้ติดตามได้สะดวก
- มีโบนัสต่อเนื่อง: ให้โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าประจำ
ถึงแม้จะยังไม่เท่ากับยักษ์ใหญ่ด้านชื่อเสียง แต่ IUX Markets เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาโบรกเกอร์ที่เน้นต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษารีวิวจากหลายแหล่งเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือให้ครบถ้วน
4. FBS – เข้าถึงง่าย ลงทุนน้อย เหมาะสำหรับมือใหม่
FBS มีแอปพลิเคชันเฉพาะชื่อ FBS CopyTrade ที่ออกแบบมาเพื่อการคัดลอกเทรดโดยเฉพาะ เน้นความสะดวกและใช้งานง่าย
จุดเด่น:
- แอปแยกต่างหาก: แอป FBS CopyTrade จัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว ทั้งค้นหา Master, ตั้งค่า หรือติดตามผล
- เงินลงทุนเริ่มต้นต่ำ: เริ่มคัดลอกได้ที่ $1 เหมาะกับผู้ที่อยากลองระบบก่อนลงทุนจริง
- ข้อมูล Master ชัดเจน: มีการจัดอันดับและแสดงข้อมูลโดยละเอียด เช่น ผลตอบแทน, ความเสี่ยง, และกลยุทธ์
FBS เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นด้วยทุนน้อย แต่ควรระวังเรื่องเลเวอเรจที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้เร็วหากไม่มีการจัดการความเสี่ยง
5. OctaFX – โบรกเกอร์ที่เน้นชุมชนและการแลกเปลี่ยนความรู้
OctaFX มีชุมชนนักเทรดที่แข็งแรงและแพลตฟอร์ม Copy Trading ที่ให้ข้อมูลลึก พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ที่ดี
จุดเด่น:
- ข้อมูล Master เจาะลึก: มีกราฟผลการเทรด, ค่าความเสี่ยง, และประวัติการซื้อขายให้ดูอย่างละเอียด
- เริ่มต้นได้ยืดหยุ่น: เงินลงทุนขั้นต่ำประมาณ $25 แต่สามารถปรับสัดส่วนการคัดลอกได้
- มีการแข่งขันสำหรับ Master: กระตุ้นให้ Master Trader พัฒนาผลงานอย่างต่อเนื่อง
OctaFX เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ และอยากเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น
6. Moneta Markets – โบรกเกอร์ใหม่ที่เน้นความโปร่งใสและเทคโนโลยีทันสมัย
Moneta Markets เป็นโบรกเกอร์ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่เริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการประสบการณ์การเทรดที่ทันสมัยและปลอดภัย จุดแข็งหลักคือการใช้เทคโนโลยีคลาวด์และระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
จุดเด่น:
- เทคโนโลยีทันสมัย: ใช้ระบบคลาวด์เพื่อความเร็วและเสถียรภาพสูงสุด
- ความโปร่งใสสูง: แสดงข้อมูลการดำเนินงานและการควบคุมความเสี่ยงอย่างชัดเจน
- มีใบอนุญาตจาก SVG FSA: แม้ไม่ใช่หน่วยงานชั้นนำระดับ FCA แต่ก็มีมาตรฐานการกำกับดูแลที่ชัดเจน
Moneta Markets เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองโบรกเกอร์ใหม่ที่เน้นนวัตกรรม แต่ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติการดำเนินงานและความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง

ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ Copy Trade ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนไทย
เพื่อให้คุณเปรียบเทียบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว นี่คือตารางสรุปคุณสมบัติสำคัญของโบรกเกอร์ทั้ง 6 ราย
โบรกเกอร์ | เงินฝากขั้นต่ำ | ค่าส่วนแบ่งกำไร | แพลตฟอร์ม | หน่วยงานกำกับ |
---|---|---|---|---|
Exness | $10 | 0-50% | Social Trading App | CySEC, FCA |
XM | $5 | 10-50% | MT4 / MT5 | CySEC, ASIC |
IUX Markets | $10 | 5-50% | แพลตฟอร์ม IUX | SVG FSA, MISA |
FBS | $1 | 5-30% | FBS CopyTrade App | CySEC, ASIC, IFSC |
OctaFX | $25 | 0-50% | OctaFX Copytrading App | CySEC, MISA |
Moneta Markets | $100 | 10-40% | MT4, MT5, Web Terminal | SVG FSA |
ข้อดีและข้อเสียของ Copy Trade ที่ควรรู้ก่อนเริ่ม
แม้ Copy Trade จะดูเหมือนทางลัดสู่ผลกำไร แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องเข้าใจอย่างชัดเจน
ข้อดี:
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องวิเคราะห์ตลาดเอง ระบบทำให้โดยอัตโนมัติ
- เหมาะกับมือใหม่: เป็นก้าวแรกที่ปลอดภัยกว่าการเทรดเองโดยไม่มีความรู้
- กระจายความเสี่ยง: คัดลอกได้หลายคน ช่วยลดผลกระทบหาก Master คนหนึ่งทำผิดพลาด
- เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ: ได้เห็นกลยุทธ์จริงจากเทรดเดอร์ที่ผ่านตลาดมาแล้วหลายรอบ
ข้อเสีย:
- ไม่รับประกันกำไร: ผลลัพธ์ในอดีตไม่การันตีอนาคต ตลาดมีความผันผวน
- เสี่ยงจาก Master: หาก Master ใช้กลยุทธ์ผิดพลาด คุณก็ขาดทุนตาม
- ต้นทุนเพิ่ม: ทั้งสเปรดและค่าคอมมิชชั่นลดทอนผลตอบแทน
- ควบคุมน้อย: คุณไม่ได้ตัดสินใจเอง อาจรู้สึกอึดอัดสำหรับบางคน
ตามที่ Investopedia ชี้แจงไว้ แม้ Copy Trade จะลดช่องว่างความรู้ แต่ความเสี่ยงจากตลาดและความเสี่ยงจากการเลือกผู้ให้สัญญาณยังคงมีอยู่เสมอ
สรุป: เลือก Copy Trade เจ้าไหนดี? ขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุนของคุณ
ไม่มีคำตอบเดียวว่า “Copy Trade เจ้าไหนดีที่สุด” เพราะคำตอบขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ
ถ้าคุณเป็น มือใหม่ที่เน้นความเร็วและความง่าย Exness เป็นตัวเลือกที่โดดเด่น ถ้าคุณให้ความสำคัญกับ ความน่าเชื่อถือสูงและโบนัส XM อาจเหมาะสมกว่า ส่วนใครที่มองหา ต้นทุนต่ำ ควรพิจารณา IUX Markets หรือ FBS ส่วน Moneta Markets เหมาะกับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีใหม่และระบบการจัดการที่ทันสมัย
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การเลือก Master Trader” อย่างมีวิจารณญาณ ควรศึกษาประวัติ ความเสี่ยง และกลยุทธ์อย่างละเอียด พร้อมเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่พร้อมจะสูญเสียได้ เพื่อให้การลงทุนในระบบ Copy Trade เป็นเส้นทางที่ยั่งยืนและปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Copy Trade เหมาะสำหรับมือใหม่จริงหรือไม่?
จริงครับ Copy Trade เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างมาก เพราะช่วยลดขั้นตอนการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนลงไป ทำให้สามารถเริ่มต้นลงทุนและเรียนรู้จากกลยุทธ์ของนักเทรดมืออาชีพได้ทันที อย่างไรก็ตาม มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนจำนวนน้อยและให้ความสำคัญกับการเลือก Master ที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน
Copy Trade ของ Exness ดีไหม มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
Copy Trade ของ Exness (Social Trading) ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากแพลตฟอร์มใช้งานง่ายและระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็วมาก ข้อดีคือความสะดวกสบาย แต่ข้อควรระวังคือ Master บางคนอาจใช้กลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าดึงดูด ดังนั้น ผู้คัดลอกต้องตรวจสอบ “คะแนนความเสี่ยง” (Risk Score) และประวัติการขาดทุนสูงสุด (Max Drawdown) ให้ดีก่อนตัดสินใจคัดลอก
การทำ Copy Trade มีความเสี่ยงขาดทุนทั้งหมดหรือไม่?
มีความเสี่ยงครับ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเงินต้นทั้งหมด หาก Master ที่คุณคัดลอกเทรดผิดพลาดอย่างรุนแรง หรือตลาดมีความผันผวนสูงเกินคาดเดา พอร์ตของคุณก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เช่น การตั้งค่า Stop Loss ในบางแพลตฟอร์ม หรือการกระจายความเสี่ยงไปคัดลอก Master หลายๆ คน
เงินลงทุนขั้นต่ำสำหรับการทำ Copy Trade คือเท่าไหร่?
เงินลงทุนขั้นต่ำจะแตกต่างกันไปในแต่ละโบรกเกอร์และแต่ละ Master Trader บางโบรกเกอร์อย่าง FBS อนุญาตให้เริ่มต้นได้ที่ 1 USD ในขณะที่โบรกเกอร์อื่นๆ เช่น Exness หรือ OctaFX อาจมีขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 10-25 USD ควรตรวจสอบเงื่อนไขของโบรกเกอร์และ Master ที่คุณสนใจอีกครั้ง
เราจะเลือก Master Trader ที่ดีและน่าเชื่อถือได้อย่างไร?
ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกัน:
- ผลงานสม่ำเสมอ: มองหา Master ที่มีผลกำไรต่อเนื่องในระยะยาว (อย่างน้อย 6-12 เดือน) ไม่ใช่แค่กำไรสูงในระยะสั้นๆ
- ความเสี่ยงต่ำ: ดูที่ค่า Max Drawdown (การขาดทุนสูงสุด) ไม่ควรสูงเกินไป (เช่น ไม่ควรเกิน 30%)
- จำนวนผู้ติดตาม: Master ที่มีผู้ติดตามเยอะและมีเงินทุนคัดลอกจำนวนมาก มักจะมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง
- กลยุทธ์ชัดเจน: Master ที่ดีมักจะอธิบายแนวทางและกลยุทธ์การเทรดของตนเองไว้อย่างชัดเจน
ค่าธรรมเนียมในการทำ Copy Trade มีอะไรบ้าง?
โดยหลักๆ แล้วจะมี 2 ส่วนคือ 1. ค่าสเปรด (Spread): เป็นส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายที่โบรกเกอร์เรียกเก็บในทุกๆ ออเดอร์ และ 2. ส่วนแบ่งกำไร (Performance/Success Fee): คือค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายให้กับ Master Trader เมื่อพอร์ตของคุณมีกำไรจากการคัดลอก โดยจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกำไร (เช่น 20% หรือ 30%)
Copy Trade ในประเทศไทยผิดกฎหมายหรือไม่?
ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายในประเทศไทยรองรับการเทรด Forex หรือ Copy Trade โดยตรง แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าผิดกฎหมาย การลงทุนจึงมีความเสี่ยงที่อยู่นอกเหนือการคุ้มครองของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ เช่น กลต. ดังนั้น การเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานการเงินในต่างประเทศที่น่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยของเงินทุน ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตาม รายชื่อบุคคลที่ควรระมัดระวังในการลงทุน ที่ประกาศโดย ก.ล.ต. เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงจากผู้ไม่หวังดี
ระหว่าง Copy Trade ของ Exness กับ XM ควรเลือกอะไรดี?
ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ:
- เลือก Exness ถ้า: คุณเป็นมือใหม่, ต้องการแอปพลิเคชันที่ใช้ง่ายมากๆ, และให้ความสำคัญสูงสุดกับความเร็วในการฝาก-ถอนเงิน
- เลือก XM ถ้า: คุณให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ที่อยู่มานาน, ต้องการโบนัสเงินฝาก, และไม่กังวลเรื่องค่าสเปรดที่อาจสูงกว่าเล็กน้อย
ทางที่ดีที่สุดคือการลองเปิดบัญชีทดลอง (Demo) ของทั้งสองแห่งเพื่อเปรียบเทียบแพลตฟอร์มและค้นหา Master ที่เหมาะสมกับสไตล์ของคุณ