ธุรกิจ Amazon ทะยานไม่หยุด: กำไรพุ่ง AWS แกร่ง ทุ่มงบ AI มหาศาลสู่ยุคใหม่ 2025

ธุรกิจ Amazon ทะยานไม่หยุด: กำไรพุ่ง AWS แกร่ง ทุ่มงบ AI มหาศาลสู่ยุคใหม่

ในโลกของการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณคงเคยได้ยินชื่อ Amazon.com บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่สร้างผลประกอบการอันน่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสล่าสุด ไตรมาส 3 ปี 2024 และไตรมาส 1 ปี 2024 ที่มีทั้งรายได้และกำไรพุ่งทะลุความคาดหมายของนักวิเคราะห์อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จนี้ มาจากกลยุทธ์การปรับลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงอย่าง Amazon Web Services (AWS) และธุรกิจโฆษณา ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้ง Amazon กำลังทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อลงทุนใน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งซีอีโอ Andy Jassy มองว่านี่คือ “โอกาสครั้งเดียวในชีวิต” ที่จะกำหนดทิศทางและอนาคตของบริษัท นี่คือภาพรวมเชิงลึกที่เราจะพาคุณไปสำรวจ

บริษัท Amazon มีการเติบโตของกำไร

สำรวจแนวโน้มสำคัญในธุรกิจ Amazon:

  • การเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส
  • การลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • การควบคุมต้นทุนเพื่อรักษาอัตรากำไรที่สูงขึ้น

ผลประกอบการที่เหนือคาดและการปรับปรุงอัตรากำไร

หากเราย้อนดูผลประกอบการล่าสุด คุณจะเห็นว่า Amazon ไม่ได้เพียงแค่ทำตามเป้าหมาย แต่ยังทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สำหรับไตรมาส 3 ปี 2024 บริษัทรายงานรายได้รวม 143,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับไตรมาส 1 ปี 2024 ที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

Amazon Web Services ทรงพลังด้านคลาวด์

อะไรคือเบื้องหลังของตัวเลขที่น่าประทับใจเหล่านี้? หัวใจสำคัญอยู่ที่การบริหารจัดการต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน จากที่เคยเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนที่สูงขึ้น Amazon ได้ใช้มาตรการลดค่าใช้จ่ายอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดพนักงาน การยุบเลิกโครงการที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการจัดส่งและโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนกับการตัดแต่งกิ่งไม้เพื่อบำรุงลำต้นให้แข็งแรง และผลลัพธ์ก็ปรากฏชัดในตัวเลข อัตรากำไรจากการดำเนินงาน ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ธุรกิจค้าปลีกในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นแกนหลักของ Amazon ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศก็สามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการขยายตลาดและปรับปรุงการดำเนินงานในระดับโลก นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในทิศทางของบริษัท

ไตรมาส รายได้ (ดอลลาร์) กำไรสุทธิ (ดอลลาร์)
ไตรมาส 3 ปี 2024 143,100,000,000 9,900,000,000
ไตรมาส 1 ปี 2024 ข้อมูลยังไม่เปิดเผย ข้อมูลยังไม่เปิดเผย

AWS: ขุมทรัพย์แห่งการเติบโตและรากฐาน AI

เมื่อพูดถึง Amazon เราไม่สามารถมองข้าม Amazon Web Services (AWS) ได้เลย ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งนี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่แท้จริงของบริษัท เป็นเสาหลักที่สร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานส่วนใหญ่ของ Amazon มาโดยตลอด และยังคงเป็นเช่นนั้น แม้ว่าในช่วงสองสามไตรมาสที่ผ่านมา AWS จะเผชิญกับการชะลอตัวในการเติบโต เนื่องจากองค์กรต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายด้านไอที แต่ในไตรมาสล่าสุด เราได้เห็นสัญญาณการเร่งตัวของการเติบโตอีกครั้ง ซึ่งเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของ Amazon

AWS ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญที่รองรับการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระยะยาวของ Amazon ลองจินตนาการถึง AWS เป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่ง ที่สามารถรองรับการก่อสร้างตึกระฟ้าแห่ง AI ได้อย่างมั่นคง การแข่งขันในตลาดคลาวด์ยังคงดุเดือด โดยมีคู่แข่งสำคัญอย่าง Microsoft Azure และ Google Cloud ซึ่งพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดอยู่เสมอ แต่ด้วยนวัตกรรมอย่าง Nova Models, Trainium Chips และบริการ Bedrock ที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ พัฒนาและใช้งาน AI ได้ง่ายขึ้น AWS ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

การลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ของ Amazon

Gil Luria นักวิเคราะห์จาก D.A. Davidson ได้ชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวของการเติบโตของ AWS มีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนกำไรของ Amazon โดยเฉพาะในส่วนของการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงาน และเมื่อพิจารณาถึงการลงทุนมหาศาลใน AI ที่กำลังจะเกิดขึ้น AWS จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก เพราะเป็นแพลตฟอร์มหลักที่รองรับการประมวลผลข้อมูลและโมเดล AI ขนาดใหญ่ทั้งหมด

Amazon กับเดิมพันใหญ่ในปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หากมีสิ่งใดที่ Amazon กำลังให้ความสำคัญเป็นพิเศษในขณะนี้ นั่นก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า AI คือ “โอกาสที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต” และบริษัทก็กำลังทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อคว้าโอกาสนี้ไว้ การลงทุนด้านทุนของ Amazon คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 โดยเน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

แล้วการลงทุนใน AI ของ Amazon คืออะไรบ้าง? เรากำลังพูดถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ที่ล้ำสมัย การฝึกอบรมโมเดล AI ขนาดใหญ่ และการสร้างศูนย์ข้อมูล (data centers) ที่จำเป็นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการซื้อชิป AI ประสิทธิภาพสูงจากบริษัทอย่าง Nvidia และ Broadcom เป้าหมายคือการนำ AI เข้ามาพลิกโฉมทุกส่วนของธุรกิจ Amazon ตั้งแต่การปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ไปจนถึงการยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้า และการพัฒนาบริการคลาวด์ AWS ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น

คุณจะเห็นว่า Amazon ไม่ได้มอง AI เป็นเพียงแค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในทศวรรษหน้า ลองนึกภาพแชทบอท AI สำหรับการช้อปปิ้งที่สามารถเข้าใจความต้องการของคุณได้อย่างลึกซึ้ง หรือระบบจัดการคลังสินค้าที่ใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บและการจัดส่ง สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างที่ Amazon กำลังพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยากจะเลียนแบบในอนาคต

สมรภูมิค้าปลีกออนไลน์: การแข่งขันดุเดือดและการแซงหน้า Walmart

ในภาคส่วนค้าปลีกออนไลน์ Amazon ยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากคู่แข่งหน้าใหม่ที่เน้นราคาถูกอย่าง Shein และ Temu ซึ่งเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าแฟชั่นและสินค้าทั่วไป การแข่งขันนี้ทำให้ Amazon ต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด

แต่ถึงแม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง คุณจะเห็นว่า Amazon ยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีแนวโน้มที่จะแซงหน้า Walmart ขึ้นเป็นบริษัทค้าปลีกที่มีรายได้สูงสุดในโลกได้ภายในปี 2025 นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญอย่าง Halloween, Black Friday, Cyber Monday และ Christmas ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Amazon ทำยอดขายได้อย่างมหาศาล การที่ผู้คนใช้ชีวิตบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้ Amazon ได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด

เราสังเกตเห็นว่า ยอดขายปลีกออนไลน์ ของ Amazon มีการปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือหรือต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม และความสามารถในการดึงดูดลูกค้าและผู้ขายให้เข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความหลากหลายของสินค้าและบริการ ตั้งแต่การจัดส่งที่รวดเร็ว (Prime) ไปจนถึงบริการสตรีมมิ่ง (Prime Video) ยังช่วยเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าและทำให้ Amazon แตกต่างจากคู่แข่ง

ธุรกิจโฆษณา: ม้ามืดที่กำลังแซงหน้าคู่แข่ง

นอกเหนือจาก AWS และอีคอมเมิร์ซ อีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์และนักลงทุน นั่นก็คือ ธุรกิจโฆษณา ของ Amazon คุณอาจจะเคยเห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นเมื่อคุณค้นหาสินค้าบน Amazon นั่นแหละคือตัวอย่างของธุรกิจนี้ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นแหล่งรายได้ที่มีอัตรากำไรสูงอีกแหล่งหนึ่ง

ทำไมธุรกิจโฆษณาของ Amazon ถึงน่าสนใจ? ลองคิดดูสิว่าเมื่อคุณต้องการซื้อของ คุณมักจะเริ่มค้นหาบน Amazon ใช่ไหม? นี่คือสิ่งที่ทำให้ Amazon ได้เปรียบเหนือแพลตฟอร์มโฆษณาอื่นๆ อย่าง Google เพราะผู้โฆษณาสามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงในขณะที่พวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนของการตัดสินใจซื้อ ทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงและมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ง่ายกว่า

ด้วยเหตุผลนี้ Amazon จึงสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากยักษ์ใหญ่อย่าง Google ในธุรกิจโฆษณาดิจิทัลได้อย่างต่อเนื่อง การเติบโตของธุรกิจโฆษณาไม่เพียงแต่เพิ่มรายได้รวมให้กับ Amazon แต่ยังช่วยเพิ่มอัตรากำไรโดยรวมของบริษัทอีกด้วย เปรียบเสมือนการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่ให้ผลผลิตเป็นทองคำ และนักลงทุนก็จับตามองการเติบโตส่วนนี้เป็นพิเศษ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางธุรกิจและความสามารถในการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ๆ ของ Amazon

การบริหารจัดการต้นทุนและการปรับโครงสร้างองค์กร

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 Amazon ได้เผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย บริษัทได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกหลายอย่าง

หนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือการ ปรับลดพนักงาน จำนวนมากในช่วงปี 2023 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่จำเป็น เพื่อให้โครงสร้างองค์กรมีความกระชับและคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ Amazon ยังได้ลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพของศูนย์กระจายสินค้าและระบบโลจิสติกส์ โดยการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาใช้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่ง ลองนึกภาพระบบที่ใช้หุ่นยนต์ในการจัดเรียงสินค้า หรือซอฟต์แวร์ AI ในการวางแผนเส้นทางการจัดส่งที่ประหยัดพลังงานที่สุด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ของการบริหารจัดการต้นทุนและการปรับโครงสร้างองค์กรนี้ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนใน อัตรากำไรจากการดำเนินงาน ที่เพิ่มสูงขึ้น และความสามารถในการทำกำไรที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถของ Amazon ในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และยังเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน ที่เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ยั่งยืน

มาตรการ รายละเอียด ผลลัพธ์
ปรับลดพนักงาน จำนวนมากในปี 2023 โครงสร้างองค์กรกระชับขึ้น
ลงทุนในเทคโนโลยี การใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดส่ง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ

ความท้าทายและข้อกังวลของนักลงทุน

แม้ว่าภาพรวมของ Amazon จะดูสดใสและเต็มไปด้วยศักยภาพ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นเสมอไป นักลงทุนบางส่วนยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับ การลงทุนขนาดใหญ่ใน AI ที่ Amazon กำลังทุ่มเทอยู่

คำถามที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาคือ: การลงทุนมหาศาลเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อใด? หรือจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่บั่นทอนกำไรในระยะสั้น? เราได้เห็นกรณีที่หุ้น Amazon ร่วงลงเล็กน้อยหลังจากการคาดการณ์ยอดขายไตรมาสถัดไปต่ำกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนที่ต้องการเห็นผลตอบแทนที่จับต้องได้จากการลงทุนใน AI โดยเร็ว ไม่ใช่แค่คำมั่นสัญญาถึงโอกาสในอนาคต

นอกจากนี้ ข่าวสารบางอย่างในตลาดก็ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นของการลงทุน AI ที่แพงลิบลิ่ว ยกตัวอย่างเช่น ข่าวของ DeepSeek บริษัท AI สัญชาติจีน ที่สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเงินลงทุนที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งส่งผลกระทบต่อมูลค่าตลาดของบริษัทผู้ผลิตชิป AI อย่าง Nvidia และ Broadcom สิ่งนี้ทำให้นักลงทุนบางคนคิดว่า AI อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลเสมอไป และ Amazon จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าการทุ่มงบประมาณจำนวนมากของตนนั้นคุ้มค่าและนำมาซึ่งความได้เปรียบในการแข่งขันที่แท้จริงในระยะยาว

ในฐานะนักลงทุน เราควรเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิดว่า Amazon จะสามารถเปลี่ยนการลงทุนใน AI ให้กลายเป็นกำไรและมูลค่าเพิ่มได้อย่างไรในอนาคต

เส้นทางสู่การเป็นผู้นำโลกในยุค AI

จากทั้งหมดที่เราได้วิเคราะห์ไป คุณจะเห็นว่า Amazon กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ บริษัทไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้ง แต่กำลังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำใน ยุค AI ที่กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมโลกของเราอย่างสมบูรณ์

กลยุทธ์ของ Amazon คือการใช้ความแข็งแกร่งของ AWS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นฐานในการพัฒนาและใช้งาน AI ในวงกว้าง นอกจากนี้ การลงทุนในเทคโนโลยี AI ยังถูกนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบค้นหา การแนะนำสินค้า หรือการจัดการโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การผสานรวม AI เข้ากับทุกส่วนของธุรกิจคือหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ระยะยาวของ Amazon

เส้นทางสู่การเป็นผู้นำโลกในยุค AI ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ Amazon ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด ต้นทุนการลงทุนที่สูง หรือความคาดหวังของนักลงทุน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม เราเชื่อว่า Amazon มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่แท้จริงในภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้

สรุปและมุมมองในอนาคต

Amazon กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและคลาวด์คอมพิวติ้งด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่ยังทุ่มเททรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในยุคของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งซีอีโอ Andy Jassy ยืนยันว่าเป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของบริษัท

การลงทุนเชิงรุกใน AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ Amazon แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวและความกล้าหาญในการลงทุนเพื่ออนาคต แม้ว่านักลงทุนบางส่วนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนในระยะสั้น แต่เราเชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน และนำมาซึ่งผลตอบแทนที่คุ้มค่าสำหรับทั้งบริษัท ลูกค้า และผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ในอนาคตที่เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน Amazon กำลังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ด้วยการผสานรวม AI เข้ากับบริการและผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ตั้งแต่การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานไปจนถึงการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค การเดินทางของ Amazon ในยุค AI เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และเราจะเฝ้าติดตามพัฒนาการอันน่าตื่นเต้นของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซและคลาวด์รายนี้อย่างใกล้ชิด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกิจ amazon

Q:Amazon มีการเติบโตของกำไรอย่างไรในช่วงไตรมาสล่าสุด?

A:Amazon มีรายได้รวม 143,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 9,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

Q:ปัจจัยใดที่ทำให้ AWS ยังเป็นผู้นำในตลาดคลาวด์?

A:AWS ยังคงเป็นผู้นำเพราะมีนวัตกรรมและการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ต่อเนื่อง

Q:Amazon กำลังลงทุนใน AI อย่างไรบ้าง?

A:Amazon ลงทุนในซอฟต์แวร์ AI, โมเดลการฝึกอบรม, และศูนย์ข้อมูลเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *