การซื้อขายฟอเร็กซ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ถือเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้ ดึงดูดนักลงทุนนับไม่ถ้วนด้วยโอกาสทำกำไรที่รวดเร็ว ทว่า สำหรับผู้เริ่มต้นในไทย การก้าวเข้าสู่ตลาดนี้อาจดูน่าปวดหัวและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คู่มือนี้จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้พื้นฐานตั้งแต่จุดเริ่มต้น การคัดเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม การจัดการความเสี่ยง ไปจนถึงประเด็นเฉพาะที่นักลงทุนไทยต้องพิจารณา เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นการเทรดได้อย่างมั่นใจและรับผิดชอบต่อตัวเอง

อะไรคือการเทรด Forex? พื้นฐานที่ผู้เริ่มต้นต้องรู้จัก
ตลาด Forex ในภาพรวม: เหตุผลที่ทำให้มันน่าดึงดูด
ฟอเร็กซ์ หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ คือสถานที่สำหรับซื้อขายสกุลเงินจากทั่วทุกมุมโลก โดยตลาดนี้มีขนาดมหึมา มีปริมาณการซื้อขายเกินกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ทำให้เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงสุดในวงการการเงิน การเทรดฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคู่หนึ่งกับอีกคู่หนึ่ง โดยหวังทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ช่วยให้นักเทรดเข้าถึงได้จากทุกสารทิศ ไม่ว่าจะเวลากลางวันหรือกลางคืน

เสน่ห์ของตลาดฟอเร็กซ์อยู่ที่ความคล่องตัวสูง ซึ่งช่วยให้เข้าออกตำแหน่งการเทรดได้อย่างฉับไว นอกจากนี้ยังให้โอกาสเทรดทั้งในช่วงตลาดขึ้นและลง แถมการเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังง่ายดาย เพียงมีเน็ตและทุนเริ่มต้น คุณก็เริ่มได้ทันที สิ่งเหล่านี้ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่อยากลองลงทุนในตลาดโลก
แนวคิดสำคัญในการเทรด Forex: คู่สกุลเงิน สเปรด และเลเวอเรจ
ก่อนจะลงสนามจริง คุณควรทำความเข้าใจกับแนวคิดพื้นฐานเหล่านี้ให้ชัดเจน เพื่อปูทางให้การเทรดราบรื่น
- คู่สกุลเงิน: สกุลเงินจะถูกเทรดเป็นคู่เสมอ เช่น EUR/USD ซึ่งเป็นยูโรเทียบดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินตัวแรกคือฐาน (Base Currency) และตัวที่สองคือสกุลอ้างอิง (Quote Currency)
- ปิ๊ป: ย่อมาจาก Percentage in Point หมายถึงหน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาที่เล็กที่สุด มักเป็นทศนิยมตำแหน่งที่สี่ในราคาคู่สกุลเงิน (เว้นแต่คู่ที่เกี่ยวข้องกับเยนญี่ปุ่น)
- สเปรด: คือช่องว่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากคุณ
- เลเวอเรจ: เครื่องมือที่ช่วยให้ควบคุมตำแหน่งใหญ่กว่าทุนจริง เช่น 1:100 หมายถึงใช้ทุน 1 ดอลลาร์ควบคุมได้ 100 ดอลลาร์ มันเพิ่มโอกาสกำไร แต่ก็ขยายความเสี่ยงขาดทุนให้มหาศาลเช่นกัน
- มาร์จิ้น: เงินที่ต้องฝากไว้เป็นหลักประกันสำหรับการเทรดที่ใช้เลเวอเรจ เพื่อเปิดและรักษาตำแหน่ง
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดูตารางสรุปคำศัพท์เหล่านี้
คำศัพท์ | คำอธิบาย |
---|---|
คู่สกุลเงิน | การเทรดสกุลเงินเป็นคู่ เช่น EUR/USD |
ปิ๊ป | หน่วยเปลี่ยนแปลงราคาเล็กสุด มักเป็นทศนิยม 4 ตำแหน่ง |
สเปรด | ส่วนต่างราคาซื้อขาย ค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์ |
เลเวอเรจ | เครื่องมือเพิ่มพลังซื้อ ขยายทั้งกำไรและความเสี่ยง |
มาร์จิ้น | ทุนที่ใช้เป็นประกันสำหรับการเทรด |

ผู้เริ่มต้นในไทยเริ่มเทรด Forex ยังไง: คู่มือปฏิบัติทีละสเต็ป
ขั้นตอนแรก: คัดเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ
การหาโบรกเกอร์ที่น่าไว้วางใจคือก้าวสำคัญที่สุด เพราะพวกเขาคือสะพานเชื่อมคุณสู่ตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลก สำหรับนักเทรดไทย ควรเน้นโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานนานาชาติชั้นนำ เช่น FCA ในสหราชอาณาจักร CySEC ในไซปรัส หรือ ASIC ในออสเตรเลีย เนื่องจากไทยยังไม่มีหน่วยงานดูแลโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์โดยตรง คุณต้องตรวจสอบประวัติการทำงาน การบริการลูกค้า และแพลตฟอร์มที่ใช้งานสะดวก เช่น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย
ในการตัดสินใจ ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้ละเอียด
- การกำกับดูแล: ต้องมีหน่วยงานทางการเงินที่แข็งแกร่งคอยตรวจสอบ
- สเปรดและค่าคอมมิชชั่น: เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเพื่อให้คุ้มค่า
- แพลตฟอร์มการเทรด: เลือกที่คุณถนัดและใช้งานไม่ยุ่งยาก
- การฝากถอนเงิน: ดูว่ามีช่องทางที่เหมาะกับคนไทยไหม
- บริการลูกค้า: ต้องตอบสนองรวดเร็วและช่วยเหลือได้จริง
ขั้นตอนที่สอง: สมัครบัญชีและฝากเงินเข้า
หลังจากเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่แล้ว สิ่งถัดไปคือการเปิดบัญชี ซึ่งมักประกอบด้วยขั้นตอนเหล่านี้
- สมัครสมาชิก: กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่โบรกเกอร์ขอ
- ยืนยันตัวตน: ส่งเอกสาร เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และหลักฐานที่อยู่ เช่น ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค เพื่อให้สอดคล้องกับกฎป้องกันการฟอกเงิน
- ฝากเงิน: โบรกเกอร์ส่วนใหญ่รองรับหลายวิธี สำหรับคนไทย ยอดนิยมคือโอนผ่านธนาคารในประเทศ บัตรเครดิตเดบิต หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Skrill กับ Neteller แต่ต้องเช็คค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น
ขั้นตอนที่สาม: ทำความรู้จักแพลตฟอร์มเทรด (MetaTrader 4/5)
MetaTrader 4 และ 5 คือแพลตฟอร์มยอดฮิตทั่วโลก มาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคเพียบ แผนภูมิที่ปรับแต่งได้ และระบบ Expert Advisors สำหรับเทรดอัตโนมัติ
ก่อนเทรดด้วยเงินจริง แนะนำให้ลองบัญชีทดลองก่อนเสมอ มันช่วยให้ฝึกในสภาพตลาดจริงแต่ใช้เงินปลอม คุณจะได้คุ้นเคยกับการสั่งซื้อขาย ตั้ง Stop Loss กับ Take Profit โดยไม่ต้องกังวลเรื่องขาดทุน สิ่งนี้คือฐานสำคัญสำหรับมือใหม่
ขั้นตอนที่สี่: เลือกคู่สกุลเงินและเทรดครั้งแรก
พอชินกับแพลตฟอร์ม คุณก็พร้อมลุยเทรดจริงแล้ว ลองทำตามนี้
- เลือกคู่สกุลเงิน: เริ่มจากคู่หลักที่คล่องตัวสูง เช่น EUR/USD GBP/USD หรือ USD/JPY ซึ่งสเปรดต่ำและมีข่าวสารเพียบ
- วิเคราะห์ตลาด: ใช้ทั้งเทคนิคอลและฟันดะเมนทัลเพื่อคาดการณ์ทิศทางราคา
- สั่งซื้อขาย:
- ซื้อ: ถ้าคิดว่าสกุลฐานจะแข็งค่าขึ้น
- ขาย: ถ้าคิดว่าสกุลฐานจะอ่อนลง
- กำหนดขนาดล็อต: ขนาดตำแหน่งที่ส่งผลต่อมูลค่าปิ๊ปและระดับความเสี่ยง
- ตั้ง Stop Loss และ Take Profit:
- Stop Loss: จำกัดขาดทุนอัตโนมัติถ้าราคาไปผิดทาง
- Take Profit: ล็อกกำไรเมื่อถึงเป้า
- ติดตามและปิด: ดูแลการเทรดและปิดเมื่อถึงเวลา หรือรอให้คำสั่งทำงาน
กลยุทธ์เทรด Forex และการจัดการความเสี่ยง: สิ่งที่มือใหม่ต้องฝึกฝน
ภาพรวมกลยุทธ์เทรดยอดนิยม: วิเคราะห์เทคนิคอลและฟันดะเมนทัล
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์มีหลักๆ สองแนวทางที่นักเทรดนิยมใช้
- วิเคราะห์ทางเทคนิคอล: ดูพฤติกรรมราคาเก่าๆ ผ่านกราฟและอินดิเคเตอร์ เช่น Moving Averages RSI หรือ MACD เพื่อทำนายอนาคต นักเทคนิคเชื่อว่าราคาสะท้อนทุกข้อมูลที่จำเป็นแล้ว
- วิเคราะห์พื้นฐาน: ประเมินค่าที่แท้จริงของสกุลเงินจากปัจจัยเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เช่น ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ การจ้างงาน GDP และเหตุการณ์สำคัญ
หลายคนผสมผสานทั้งสองวิธีเพื่อตัดสินใจที่รอบคอบยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนสูงแบบนี้
การจัดการทุนและควบคุมความเสี่ยง: วิธีปกป้องเงินของคุณ
การดูแลความเสี่ยงคือหัวใจของการเทรดฟอเร็กซ์ที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อเลเวอเรจเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งขยายทั้งกำไรและ lỗ คุณควรมีแผนชัดเจนดังนี้
- อย่าใช้เงินทั้งหมด: เทรดเฉพาะเงินที่เสียได้โดยไม่กระทบชีวิต
- จำกัดความเสี่ยงต่อเทรด: ผู้เชี่ยวชาญแนะนำไม่เกิน 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อครั้ง
- ใช้ Stop Loss ทุกครั้ง: เพื่อตัดขาดทุนก่อนสายเกินไป
- อัตราส่วนเสี่ยงกำไร: เลือกเทรดที่กำไรมีโอกาสมากกว่าขาดทุน เช่น 1:2 หรือ 1:3
- ปรับขนาดตำแหน่ง: ให้พอดีกับทุนและระดับเสี่ยงที่ยอมรับ
ด้วยการควบคุมแบบนี้ คุณจะอยู่รอดในตลาดนานขึ้น มีเวลาฝึกฝนและเติบโต
ประเด็นที่ต้องคิดและความเสี่ยงในการเทรด Forex ในไทย
การกำกับดูแลและกฎหมายในไทย: สิ่งที่ควรทราบ
ในไทย การเทรดเงินตราต่างประเทศกับโบรกเกอร์ต่างชาติยังไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานในประเทศ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ประเทศไทย) โดยกฎหมายกำหนดให้เทรดผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตในไทยเท่านั้น แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ใช้โบรกเกอร์ต่างชาติ ยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน ทว่าก็ขาดการคุ้มครองจากกฎหมายไทย ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่กำกับดูแลเข้มงวดจากต่างประเทศจึงจำเป็น เพื่อรักษาความปลอดภัยเงินทุน
คุณต้องตระหนักว่าการเทรดแบบนี้มีความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการปกป้องจากกฎหมายไทย และต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดปัญหา
ระวังมิจฉาชีพฟอเร็กซ์: ตัวอย่างที่พบบ่อยในไทยและวิธีป้องกัน
เพราะตลาดฟอเร็กซ์ในไทยยังไม่ถูกกำกับโดยตรง มันจึงกลายเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพหลอกลวง นักลงทุนไทยหลายรายเคยพลาดเพราะรูปแบบเหล่านี้
- สัญญากำไรสูงแน่นอน: อ้างทำเงินได้มากและสม่ำเสมอโดยไร้ความเสี่ยง สัญญาณเตือนภัยชัดๆ
- แชร์ลูกโซ่: ชวนลงทุนโดยใช้เงินใหม่จ่ายเก่า จนล้มเมื่อไม่มีคนใหม่
- โบรกเกอร์ปลอม: สร้างเว็บดูดี แต่ฝากเงินเข้าแล้วถอนไม่ได้
- ผู้จัดการทุนปลอม: อ้าง expertise แต่เอาเงินไปใช้
วิธีป้องกัน:
- เช็คการกำกับดูแล: ยืนยันจากหน่วยงานน่าเชื่อถือระดับโลก
- อย่าหลงคำมั่นสัญญาเกินจริง: ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่มีอะไรรับประกัน 100%
- ศึกษาด้วยตัวเอง: อย่าให้คนอื่นจัดการทุน เรียนรู้และตัดสินใจเอง
- ระวังชวนลงทุนทางโซเชียล: โดยเฉพาะที่ขอโอนเงินโดยตรง
ความจริงและความคาดหวังเมื่อเทรดด้วยทุนน้อย
คำถามฮิตคือ ทุน 100 ดอลลาร์สหรัฐพอเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ในไทยไหม? คำตอบคือพอ โบรกเกอร์หลายแห่งรับทุนต่ำ แต่การเริ่มด้วยจำนวนน้อยแบบนี้มีทั้งข้อดีและอุปสรรค
- ข้อดี: เข้าถึงตลาดจริงและฝึกแพลตฟอร์มได้
- อุปสรรค: ขนาดเทรดจำกัด กำไรยาก และผิดพลาดนิดเดียวทุนก็หมด
เคล็ดลับ: ถ้าทุนน้อย เริ่มจากบัญชีทดลองก่อน เมื่อพร้อมค่อยใช้เงินจริงที่บริหารเสี่ยงได้ เน้นเรียนรู้มากกว่าทำกำไรไว
เสริมทักษะเทรดฟอเร็กซ์: แหล่งข้อมูลและเครื่องมือช่วยเหลือ
แหล่งเรียนรู้แนะนำ (หนังสือ คอร์ส ทดลองเทรด)
การเรียนรู้ไม่หยุดนิ่งคือกุญแจสู่ความสำเร็จในฟอเร็กซ์
- หนังสือ: มีตั้งแต่พื้นฐานยันกลยุทธ์โปร
- คอร์สออนไลน์: จาก Coursera Udemy หรือ YouTube ทั้งฟรีและเสียเงิน
- บัญชีทดลอง: ทางฝึกที่ดีที่สุดโดยไร้ความเสี่ยง
- เว็บเรียนฟอเร็กซ์: เช่น BabyPips.com ที่มีบทเรียนเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่
เครื่องมือปฏิบัติ: ปฏิทินเศรษฐกิจและข่าวสาร
เพื่อช่วยตัดสินใจเทรด ให้ใช้เครื่องมือเหล่านี้
- ปฏิทินเศรษฐกิจ: แสดงกำหนดการเหตุการณ์สำคัญ เช่น ประกาศดอกเบี้ย รายงานจ้างงาน GDP ที่กระทบตลาดแรง
- ข่าวการเงิน: ติดตามจาก Bloomberg Reuters เพื่อเข้าใจปัจจัยขับเคลื่อน
สรุป: ก้าวแรกสู่การเทรดฟอเร็กซ์ในไทยของคุณ
ฟอเร็กซ์คือโอกาสลงทุนสุดตื่นเต้น แต่เสี่ยงสูง โดยเฉพาะมือใหม่ในไทยที่เจอสภาพแวดล้อมไร้การกำกับโดยตรง สิ่งสำคัญคือศึกษาลึกซึ้ง เลือกโบรกเกอร์ดี ฝึกทดลอง และจัดการเสี่ยงเข้มงวด อย่าตกหลุมพรางสัญญากำไรเกินจริง และจำไว้ว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ศึกษาก่อนลงมือ ขอให้โชคดีกับเส้นทางฟอเร็กซ์!
ในประเทศไทยการเทรด Forex ถือว่าถูกกฎหมายหรือไม่? มีกฎระเบียบใดบ้างที่ต้องทราบ?
ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่ระบุว่าการเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองนักลงทุนโดยตรงจากหน่วยงานในประเทศเช่นกัน ธนาคารแห่งประเทศไทยและ ก.ล.ต. ประเทศไทย กำกับดูแลเฉพาะสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตในประเทศเท่านั้น การเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศจึงหมายความว่าคุณจะไม่มีการคุ้มครองตามกฎหมายไทย และต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดด้วยตัวเอง
ในฐานะมือใหม่ชาวไทย ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex รายใด? มีตัวเลือกที่เป็นโบรกเกอร์ไทยหรือไม่?
สำหรับมือใหม่ชาวไทย ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ระดับสากลที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส) หรือ ASIC (ออสเตรเลีย) เนื่องจากไม่มีโบรกเกอร์ Forex ที่จดทะเบียนและได้รับการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการในประเทศไทย คุณจึงควรตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ต่างประเทศอย่างละเอียด
มีเงินเพียง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถเริ่มต้นเทรด Forex ในประเทศไทยได้หรือไม่? มีคำแนะนำที่เป็นจริงอย่างไร?
ได้ โบรกเกอร์หลายรายอนุญาตให้เปิดบัญชีด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำมาก แต่การเริ่มต้นด้วยเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นมีข้อจำกัดด้านขนาดการเทรดและโอกาสในการทำกำไรที่น้อยมาก ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เงินทุนหมดไปได้อย่างรวดเร็ว คำแนะนำที่เป็นจริงคือ ให้ใช้บัญชีทดลองเพื่อเรียนรู้ก่อน และหากต้องการเทรดด้วยเงินจริง ควรใช้เงินทุนที่คุณพร้อมจะสูญเสียได้ และเน้นการเรียนรู้มากกว่าการทำกำไรก้อนโตในระยะแรก
ในประเทศไทยจะถอนกำไรจากการเทรดได้อย่างไร? ต้องเสียภาษีหรือไม่?
การถอนกำไรมักทำผ่านช่องทางเดียวกับการฝากเงิน เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ E-wallet (Skrill, Neteller) ในส่วนของภาษีนั้น กรมสรรพากรของประเทศไทย ถือว่ากำไรจากการลงทุนในต่างประเทศเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย หากมีการนำเงินได้นั้นกลับเข้ามาในประเทศในปีภาษีเดียวกัน การตีความและข้อกำหนดอาจซับซ้อน ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้อง
จะระบุและหลีกเลี่ยงการหลอกลวงการเทรด Forex ที่พบบ่อยในประเทศไทยได้อย่างไร?
การหลอกลวงมักมาในรูปแบบของการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง, การันตีกำไร, หรือชวนลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ คุณควรระวังข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง, ตรวจสอบการกำกับดูแลของโบรกเกอร์อย่างละเอียด, ไม่ควรให้ผู้อื่นจัดการเงินทุนของคุณ และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง หากมีข้อสงสัย ให้ปรึกษาผู้รู้หรือค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
ฉันสามารถเทรด Forex บนโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่? มีแอปพลิเคชันเทรดใดบ้างที่นิยมในประเทศไทย?
ได้ คุณสามารถเทรด Forex บนโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย แอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ MetaTrader 4 (MT4 Mobile) และ MetaTrader 5 (MT5 Mobile) ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบน iOS และ Android โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็มีแอปพลิเคชันของตนเองที่สามารถใช้เทรดได้เช่นกัน
ประเทศไทยมีหลักสูตรการเรียนรู้หรือชุมชนการเทรด Forex โดยเฉพาะหรือไม่?
มีชุมชนและกลุ่มเรียนรู้ Forex ในประเทศไทยอยู่บ้างทั้งในรูปแบบออนไลน์ (เช่น กลุ่ม Facebook, Line) และออฟไลน์ (สัมมนา, เวิร์คช็อป) อย่างไรก็ตาม คุณควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกเข้าร่วม และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้สอนหรือผู้จัด เนื่องจากบางแห่งอาจมีการชักชวนให้ลงทุนในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย
เงินบาท (THB) สามารถใช้เทรดกับสกุลเงินอื่น ๆ ในตลาด Forex ได้หรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์ Forex ต่างประเทศส่วนใหญ่จะไม่มีคู่สกุลเงินที่มีเงินบาท (THB) เป็นส่วนประกอบสำหรับการเทรดโดยตรง เนื่องจากเงินบาทเป็นสกุลเงินที่ควบคุมโดยธนาคารกลางและไม่ได้มีการซื้อขายอย่างเสรีในตลาด Forex ระหว่างประเทศมากนัก นักเทรดชาวไทยมักจะเทรดคู่สกุลเงินหลักอื่นๆ เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เป็นต้น
นักเทรดชาวไทยในตลาด Forex ส่วนใหญ่ให้ความสนใจคู่สกุลเงินใด?
นักเทรดชาวไทยส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจคู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs) ที่มีสภาพคล่องสูงและสเปรดต่ำ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ), GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐฯ), USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น) และ AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐฯ) เนื่องจากเป็นคู่ที่ได้รับผลกระทบจากข่าวสารเศรษฐกิจโลกและมีการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ได้ง่ายกว่า
สำหรับมือใหม่ Forex ชาวไทย ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคืออะไร?
สำหรับมือใหม่ Forex ชาวไทย ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ การขาดความเข้าใจในเรื่องการบริหารความเสี่ยง และ การตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง เนื่องจากยังไม่มีการกำกับดูแลโดยตรงในประเทศ ทำให้เงินทุนของคุณไม่มีการคุ้มครองตามกฎหมายไทย หากคุณขาดความรู้ในการควบคุมเลเวอเรจ, ไม่ตั้ง Stop Loss หรือถูกชักจูงให้ลงทุนในโครงการที่สัญญาผลตอบแทนเกินจริง คุณก็อาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้ง่ายดาย