ไซด์เวย์ คืออะไร? คู่มือทำกำไรและบริหารความเสี่ยงในตลาดไร้ทิศทาง

Table of Contents

บทนำ: ทำความเข้าใจ “ไซด์เวย์” ในตลาดการเงินไทย

ในแวดวงการลงทุนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและช่องทางทำกำไร “ไซด์เวย์” ถือเป็นสถานการณ์หนึ่งของตลาดที่นักลงทุนและเทรดเดอร์ทุกคนควรรู้จักและเตรียมรับมือให้ดี ตลาดแบบนี้ที่ราคาไม่แสดงทิศทางชัดเจน อาจดูเหมือนช่วงเวลาที่นิ่งเฉยหรือไม่น่าตื่นเต้น แต่จริงๆ แล้ว มันซ่อนทั้งโอกาสและอุปสรรคไว้มากมาย โดยเฉพาะในตลาดการเงินของไทย ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น SET ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งตลาดคริปโต หากคุณเข้าใจและมีแผนการที่เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ ก็จะช่วยให้สร้างรายได้และจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพาคุณสำรวจความหมาย ลักษณะ สาเหตุ วิธีการตรวจจับ กลยุทธ์การเทรด และข้อควรระวังต่างๆ ในสถานการณ์นี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนชาวไทยพร้อมรับมือกับทุกสภาพตลาด

นักลงทุนกำลังศึกษากราฟตลาดการเงินที่แสดงการเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ในประเทศไทย โดยมีบุคคลกำลังครุ่นคิด

ไซด์เวย์ คืออะไร? นิยามและลักษณะเฉพาะ

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักพื้นฐานของไซด์เวย์กัน เพื่อให้นักลงทุนแยกแยะสถานการณ์นี้จากแนวโน้มอื่นๆ ได้อย่างถูกต้อง

ความหมายของ ไซด์เวย์

ไซด์เวย์หมายถึงช่วงเวลาที่ราคาสินทรัพย์ทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สกุลเงิน หรือคริปโตเคอร์เรนซี เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงราคาที่จำกัด โดยปราศจากทิศทางที่เด่นชัดว่าจะขึ้นหรือลง ราคาจะแกว่งไกวระหว่างระดับแนวรับและแนวต้าน ในลักษณะที่เหมือนกำลังเลื่อนไปทางด้านข้างโดยไม่มีจุดหมายที่ชัดเจน สถานการณ์นี้ต่างจากตลาดขาขึ้นที่ราคาไต่ระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง หรือตลาดขาลงที่ราคาร่วงลงไม่หยุดยั้ง ตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจเห็นราคาสวิงขึ้นลงอย่างรุนแรง แต่สำหรับไซด์เวย์ ความผันผวนมักถูกจำกัดไว้ในกรอบแคบกว่า

จากมุมมองทางเทคนิค สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ที่ไม่มีฝ่ายใดครอบงำพอที่จะดันราคาให้ทะลุกรอบได้ นักลงทุนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะรอฟังข่าวหรือรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะลงมือครั้งใหญ่

กราฟหุ้นแสดงการเคลื่อนไหวราคาแบบแนวนอนระหว่างแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน โดยไม่มีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง

ลักษณะสำคัญของตลาดไซด์เวย์

คุณสามารถสังเกตสัญญาณเด่นของตลาดไซด์เวย์ได้จากกราฟราคา ดังนี้

  • การเคลื่อนไหวในกรอบราคา: ราคาจะอยู่ในขอบเขตระหว่างแนวรับและแนวต้านที่เห็นได้ชัด โดยไม่ทะลุออกไปเป็นเวลานาน
  • ขาดทิศทางที่ชัดเจน: ไม่พบจุดสูงสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หรือจุดต่ำสุดที่ต่ำลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องบอกแนวโน้มขึ้นหรือลง
  • ปริมาณการซื้อขายลดลง: โดยทั่วไป ปริมาณการแลกเปลี่ยน (Volume) จะต่ำลง สะท้อนถึงความลังเลของผู้เข้าร่วมตลาด
  • อินดิเคเตอร์ไร้ทิศทาง: เครื่องมือวัดแนวโน้ม เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) มักจะนิ่งหรือตัดกันบ่อยๆ

สาเหตุที่ตลาดเข้าสู่ช่วงไซด์เวย์

ตลาดเข้าสู่ไซด์เวย์ได้จากหลายปัจจัย ทั้งที่มาจากภายนอกและกลไกภายในของตลาดเอง

ภาพประกอบปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลต่อกราฟตลาด แสดงถึงสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง

เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองมักจุดชนวนให้ตลาดกลายเป็นไซด์เวย์ เช่น

  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่คลุมเครือ: เมื่อมีตัวเลขเศรษฐกิจหลักรอประกาศ แต่ผลยังไม่ชัดเจน ผู้ลงทุนมักชะลอการเคลื่อนไหว ส่งผลให้ราคาแกว่งในกรอบแคบ
  • การรอคอยข่าวสารสำคัญ: เช่น รอผลประชุมธนาคารกลาง การเลือกตั้ง หรือนโยบายใหม่ ซึ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดเข้าสู่โหมดเฝ้าดู
  • ความไม่แน่นอนทางการเมือง: สถานการณ์ที่วุ่นวายหรือเปลี่ยนแปลงบ่อย สามารถสร้างความสับสนและทำให้ตลาดไร้ทิศทาง
  • นโยบายการเงินการคลัง: หากธนาคารกลางหรือรัฐบาลยังไม่กำหนดทิศทางชัดเจน ผู้ลงทุนอาจยังไม่กล้าลงทุนเต็มตัว

ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกอย่างการค้าช่วงโควิด-19 ตลาดหุ้น SET ก็เคยเข้าสู่ไซด์เวย์นานหลายเดือน ก่อนที่จะมีข่าวบวกใหม่ๆ ผลักดัน

การรวบรวมกำลังของตลาด

นอกจากปัจจัยภายนอก ไซด์เวย์ยังเป็นกระบวนการธรรมชาติของตลาด

  • การพักตัวหลังแนวโน้มใหญ่: หลังจากราคาพุ่งขึ้นหรือร่วงลงแรง ตลาดมักหยุดพักเพื่อให้ผู้ลงทุนปรับตัวและวางแผนใหม่
  • อุปสงค์และอุปทานสมดุล: เมื่อแรงซื้อและขายเท่าเทียมกัน ราคาจะค้างอยู่ในกรอบ รอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ
  • การสะสมหุ้น: ผู้เล่นรายใหญ่หรือสถาบันการเงินมักใช้ช่วงนี้เก็บสินทรัพย์อย่างเงียบๆ ก่อนขยับตลาดไปในทิศทางใหม่

วิธีระบุตลาดไซด์เวย์ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค

การนำเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคมาใช้ช่วยยืนยันและตรวจจับไซด์เวย์ได้อย่างแม่นยำ

การใช้กราฟแท่งเทียนและเส้นแนวโน้ม

เริ่มต้นด้วยการดูกราฟราคาโดยตรง ซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐาน

  • รูปแบบราคา: สังเกตว่าราคาเคลื่อนที่แบบแนวนอน โดยจุดสูงสุดและต่ำสุดอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่มีการไต่ระดับขึ้นหรือลงต่อเนื่อง
  • เส้นแนวรับและแนวต้าน: วาดเส้นเชื่อมจุดต่ำสุดหลายจุดสำหรับแนวรับ และจุดสูงสุดสำหรับแนวต้าน หากเส้นทั้งคู่ขนานกันในแนวระดับ แสดงถึงกรอบไซด์เวย์
  • กราฟแท่งเทียนขนาดเล็ก: แท่งเทียนที่สั้นๆ บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวที่จำกัดและความไม่แน่ใจของตลาด

อินดิเคเตอร์ยอดนิยมสำหรับตลาดไซด์เวย์

เครื่องมือบางตัวช่วยยืนยันไซด์เวย์และหาจุดเข้า-ออกได้ดี

  • Relative Strength Index (RSI): ค่านี้แกว่งระหว่าง 0-100 ในไซด์เวย์ มักอยู่ระหว่าง 70 (ซื้อมากเกิน) และ 30 (ขายมากเกิน) ซื้อเมื่อต่ำกว่า 30 และขายเมื่อสูงกว่า 70 เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม
  • Stochastic Oscillator: คล้าย RSI ช่วยจับสัญญาณซื้อ-ขาย โดยซื้อเมื่อเส้น %K ตัดขึ้นเหนือ %D ในโซนต่ำ และขายเมื่อตัดลงในโซนสูง
  • Bollinger Bands: เมื่อแถบหดตัวเข้าหากัน (Squeeze) แสดงถึงความผันผวนต่ำ ซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่าง ขายเมื่อแตะขอบบน
  • Moving Average Convergence Divergence (MACD): ในช่วงนี้ เส้น MACD และ Signal มักวนใกล้เส้นศูนย์ สัญญาณไม่ชัดเจน ซึ่งยืนยันว่าตลาดไร้แนวโน้มแข็งแกร่ง

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค สามารถดูได้ที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

กลยุทธ์การเทรดในตลาดไซด์เวย์: โอกาสและข้อควรระวัง

การเทรดในไซด์เวย์ต้องปรับกลยุทธ์ให้ต่างจากตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

กลยุทธ์การเทรดแบบกรอบราคา (Range Trading)

นี่คือวิธีที่ใช้กันมากที่สุดในสถานการณ์นี้

  • หลักการ: ซื้อใกล้แนวรับ และขายใกล้แนวต้าน
  • จุดเข้า: รอราคากลับตัวจากแนวรับชัดเจน หรือจากแนวต้าน
  • จุดทำกำไร (Take Profit): ตั้งเป้าที่แนวต้านเมื่อซื้อจากแนวรับ หรือที่แนวรับเมื่อขายจากแนวต้าน
  • จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): วางต่ำกว่าแนวรับนิดหน่อยเมื่อซื้อ หรือสูงกว่าแนวต้านเมื่อขาย เพื่อป้องกันการทะลุ
  • ข้อควรระวัง: วิธีนี้เวิร์กดีถ้าราคายังอยู่ในกรอบ แต่ถ้าทะลุออก (Breakout) อาจขาดทุน ควรเฝ้าดูปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยัน

กลยุทธ์การเทรดแบบรอการทะลุ (Breakout Trading)

กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับเตรียมรับมือจุดสิ้นสุดของไซด์เวย์

  • หลักการ: รอราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้าน พร้อมปริมาณซื้อขายที่พุ่งสูง
  • จุดเข้า: ซื้อเมื่อทะลุแนวต้านขึ้น หรือขายเมื่อทะลุแนวรับลง
  • การยืนยัน: การทะลุจริงมักมาพร้อม Volume สูง ซึ่งแสดงถึงแรงผลักที่แท้จริง
  • ข้อควรระวัง: ระวัง False Breakout ที่ราคาแค่หลุดชั่วคราวแล้วกลับ รอสัญญาณชัดและใช้ Stop Loss เสมอ

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีหลีกเลี่ยง

ผู้ลงทุนไทย โดยเฉพาะมือใหม่ มักพลาดในไซด์เวย์แบบนี้

  • โอเวอร์เทรด (Overtrading): เทรดบ่อยเกินในกรอบแคบ ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมกินกำไร
  • ไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน: ถ้าราคาทะลุแล้วไม่ตัดขาดทุน อาจเสียหนักเมื่อแนวโน้มใหม่เกิด
  • คาดการณ์ทิศทาง: พยายามเดาทิศทางก่อนสัญญาณชัด อาจเข้าผิดข้าง
  • ขาดความอดทน: ช่วงนี้ต้องรอ รีบร้อนอาจพลาดหรือผิดพลาด
  • วิธีหลีกเลี่ยง: เลือกเทรดคุณภาพมากกว่าจำนวน ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง รอสัญญาณยืนยัน วินัยและการจัดการความเสี่ยงคือกุญแจ

สำหรับกลยุทธ์เพิ่มเติมในตลาดไซด์เวย์ ลองดูที่ Finnomena

ไซด์เวย์ในสินทรัพย์ต่างๆ: หุ้น, Forex, และคริปโตในบริบทไทย

ไซด์เวย์เกิดได้ในสินทรัพย์หลากหลาย แต่ละตลาดมีลักษณะและปัจจัยเฉพาะตัว

ไซด์เวย์ในตลาดหุ้นไทย (SET)

ตลาดหุ้นไทยมักเจอไซด์เวย์บ่อย

  • สาเหตุ: จากการรอผลประกอบการบริษัท นโยบายรัฐ หรือเศรษฐกิจใหญ่ ผู้เล่นรายใหญ่อาจกำลังสะสมหุ้น
  • หุ้นขนาดใหญ่: หุ้นใน SET Index เข้าช่วงนี้เมื่อตลาดโดยรวมนิ่ง หรือราคาพักหลังวิ่งแรง
  • การเทรด: ใช้ Range Trading กับหุ้นพื้นฐานดีที่กำลังสะสม เช่น หุ้นธนาคารใหญ่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอ

ไซด์เวย์ในตลาด Forex

ตลาด Forex ที่เปิด 24 ชั่วโมง ก็มีไซด์เวย์เช่นกัน

  • สาเหตุ: เมื่อไม่มีข่าวเศรษฐกิจใหญ่จากคู่สกุลหลักอย่าง USD/JPY หรือ EUR/USD หรือช่วงวันหยุดที่สภาพคล่องต่ำ
  • ช่วงเวลา: เกิดบ่อยในเซสชันเอเชียที่ตลาดยุโรป-อเมริกาปิด
  • การเทรด: โบรกเกอร์มีเครื่องมือช่วยหาแนวรับ-ต้าน ใช้ Range Trading ใน timeframe สั้น

ไซด์เวย์ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

ตลาดคริปโตที่ผันผวนสูง ก็มีช่วงพักแบบนี้

  • สาเหตุ: หลัง Bitcoin หรือ Altcoin ปรับฐานแรง ตลาดหยุดเพื่อให้นักลงทุนประเมินใหม่
  • ลักษณะเฉพาะ: กรอบอาจกว้างกว่าเพราะตลาด敏感ต่อข่าวและโซเชียล
  • โอกาส: Range Trading กับ Altcoin สภาพคล่องสูงที่มีกรอบชัด เช่น Ethereum ในช่วงรออัปเดตเครือข่าย

จิตวิทยาการเทรดในตลาดไซด์เวย์

ไซด์เวย์เป็นการทดสอบจิตใจนักเทรด เพราะมันนำมาซึ่งความรู้สึกท้าทายหลายอย่าง

  • ความเบื่อหน่ายและความลังเล: ราคานิ่งนาน อาจทำให้เบื่อและลังเล หรือไล่ตามโอกาสที่ไม่มี
  • ความผิดหวัง: ผู้ที่คาดหวังกำไรเร็ว อาจหงุดหงิดกับความเชื่องช้า
  • การโอเวอร์เทรด: เพื่อคลายเบื่อ บางคนเทรดบ่อย สุดท้ายเสียจากค่าธรรมเนียมและผิดพลาด
  • วินัยการเทรด: ช่วงนี้ต้องอดทน รอสัญญาณชัด และยึดแผน
  • การบริหารความเสี่ยง: ลดขนาดพอร์ตหรือใช้ Stop Loss แคบ เพื่อจำกัดความเสียหายในกรอบจำกัด

การควบคุมอารมณ์เหล่านี้ช่วยให้นักเทรดรอดและทำกำไรได้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในตลาดไทยที่อาจได้รับผลจากปัจจัยภายในเพิ่มเติม

สรุป: ควบคุมตลาดไซด์เวย์ให้เป็นโอกาสของคุณ

ไซด์เวย์ไม่ใช่แค่การหยุดนิ่งของตลาด แต่เป็นโอกาสที่ต้องอาศัยความเข้าใจและแผนการที่ลงตัว หากผู้ลงทุนไทยตรวจจับได้ถูกต้อง ใช้เครื่องมือเทคนิคอย่างชำนาญ และเลือก Range Trading หรือ Breakout Trading ด้วยวินัย ก็สามารถพลิกช่วงไร้ทิศทางนี้ให้เป็นกำไรได้

สิ่งที่สำคัญคือการเรียนรู้ไม่หยุด ปรับตัวตามตลาด และจัดการจิตใจตัวเอง ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นไทย Forex หรือคริปโต การรู้จัก “ไซด์เวย์” จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงและเติบโตระยะยาว

ไซด์เวย์ กราฟ คืออะไร? มันแตกต่างจากเทรนด์ขาขึ้น/ขาลงอย่างไร?

ไซด์เวย์ กราฟ คือช่วงที่ราคาของสินทรัพย์เคลื่อนที่ในกรอบแคบๆ ระหว่างแนวรับและแนวต้าน โดยไม่มีทิศทางที่ชัดเจนไปทางขึ้นหรือลง

ความแตกต่าง:

  • เทรนด์ขาขึ้น (Uptrend): ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) และจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้น (Higher Low) อย่างต่อเนื่อง
  • เทรนด์ขาลง (Downtrend): ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) และจุดสูงสุดใหม่ที่ต่ำลง (Lower High) อย่างต่อเนื่อง
  • ไซด์เวย์: ราคาทำจุดสูงสุดและต่ำสุดในระดับใกล้เคียงกัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ชัดเจน

ตลาดไซด์เวย์ เทรดอย่างไรให้ได้กำไร? มีกลยุทธ์อะไรแนะนำบ้าง?

กลยุทธ์หลักในตลาดไซด์เวย์คือ การเทรดแบบกรอบราคา (Range Trading) ซึ่งคือการซื้อเมื่อราคาแตะแนวรับและขายเมื่อราคาแตะแนวต้าน นอกจากนี้ ยังมี กลยุทธ์การเทรดแบบรอการทะลุ (Breakout Trading) ซึ่งเป็นการรอให้ราคา breakout ออกจากกรอบไซด์เวย์เพื่อเข้าทำกำไรเมื่อเกิดแนวโน้มใหม่

อินดิเคเตอร์ตัวไหนบ้างที่เหมาะกับการใช้ในตลาดไซด์เวย์?

อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสำหรับตลาดไซด์เวย์มักจะเป็น Oscillator ที่ใช้ระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ได้แก่:

  • Relative Strength Index (RSI)
  • Stochastic Oscillator
  • Bollinger Bands (โดยเฉพาะช่วงที่แถบบีบตัว)

หุ้นไทยที่กำลังไซด์เวย์ ควรซื้อหรือขายดี?

สำหรับหุ้นไทยที่กำลังไซด์เวย์ การตัดสินใจซื้อหรือขายขึ้นอยู่กับกลยุทธ์:

  • หากใช้ Range Trading: ซื้อเมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ และขายเมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน
  • หากเป็นนักลงทุนระยะยาวที่รอการเติบโต: ช่วงไซด์เวย์อาจเป็นโอกาสในการ สะสมหุ้น ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในราคาที่เหมาะสม
  • หากต้องการความชัดเจนของแนวโน้ม: อาจ รอดูก่อน จนกว่าจะมีสัญญาณ Breakout ที่ชัดเจน

สิ่งสำคัญคือการตั้งจุดตัดขาดทุนเสมอ เพื่อบริหารความเสี่ยง

จะรู้ได้อย่างไรว่าตลาดไซด์เวย์กำลังจะจบลงและเกิดการทะลุ (Breakout)?

สัญญาณที่บ่งบอกว่าไซด์เวย์กำลังจะจบและเกิด Breakout ได้แก่:

  • การทะลุแนวรับ/แนวต้านอย่างชัดเจน: ราคาเคลื่อนที่เลยแนวรับหรือแนวต้านไปอย่างมีนัยสำคัญ
  • ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก: ปริมาณ (Volume) ที่สูงขึ้นอย่างผิดปกติในช่วงที่ราคาทะลุเป็นสัญญาณยืนยันที่สำคัญ
  • รูปแบบกราฟแท่งเทียน: อาจมีแท่งเทียนขนาดใหญ่ที่ปิดนอกกรอบราคา
  • อินดิเคเตอร์สนับสนุน: อินดิเคเตอร์เช่น MACD อาจเริ่มแสดงสัญญาณการเกิดแนวโน้มใหม่

การเทรดไซด์เวย์มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนไทยควรรู้?

ความเสี่ยงที่พบบ่อยในการเทรดไซด์เวย์สำหรับนักลงทุนไทย ได้แก่:

  • การทะลุหลอก (False Breakout): ราคาทะลุออกนอกกรอบเพียงชั่วคราวแล้วกลับเข้าสู่กรอบเดิม ทำให้ขาดทุน
  • ค่าธรรมเนียมสูง: การเทรดบ่อยครั้งในกรอบแคบอาจทำให้ค่าธรรมเนียมกินกำไรหมด
  • ขาดทุนหนักหากไม่ตั้ง Stop Loss: หากเกิด Breakout จริงและไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน อาจทำให้ขาดทุนรุนแรง
  • ความเบื่อหน่ายและโอเวอร์เทรด: สภาวะตลาดที่น่าเบื่ออาจทำให้นักเทรดตัดสินใจผิดพลาด

ไซด์เวย์ในตลาด Forex กับตลาดคริปโต มีความแตกต่างกันอย่างไรในการเทรด?

แม้หลักการไซด์เวย์จะคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างในการเทรด:

  • ตลาด Forex: มักเกิดไซด์เวย์ในคู่สกุลเงินหลักเมื่อไม่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญ หรือในช่วงตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ การเทรดอาจเน้นที่กรอบเวลาสั้นๆ
  • ตลาดคริปโต: แม้จะผันผวนสูง แต่ก็มีไซด์เวย์เมื่อตลาดพักตัวหลังจากเคลื่อนไหวรุนแรง กรอบไซด์เวย์อาจกว้างกว่า และอาจได้รับอิทธิพลจากข่าวสารและกระแสโซเชียลมีเดียมากกว่า ทำให้การ Breakout อาจรุนแรงและคาดเดายากกว่า

ในช่วงที่ตลาดไซด์เวย์ นักลงทุนมือใหม่ควรทำอย่างไร?

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ในช่วงตลาดไซด์เวย์ ควรเน้นที่:

  • เรียนรู้และฝึกฝน: ใช้โอกาสนี้ในการทำความเข้าใจเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกลยุทธ์ Range Trading
  • บริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด: ตั้งจุดตัดขาดทุนและไม่โอเวอร์เทรด
  • อดทนรอ: ไม่รีบเข้าเทรดหากยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจน
  • อาจลดขนาดการลงทุน: เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดไม่แน่นอน
  • ศึกษาปัจจัยพื้นฐาน: ใช้ช่วงเวลาที่ตลาดพักตัวนี้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของสินทรัพย์ที่สนใจ เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อตลาดมีแนวโน้มชัดเจน

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *