บทนำ: แก่นแท้ของข้อโต้แย้ง Trustfinance และสัญญาณเตือนสำหรับนักลงทุนไทย
ในยุคที่การลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัลกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมากมายที่ดึงดูดใจด้วยคำสัญญาผลตอบแทนมหาศาล ทว่าเบื้องหลังความหวังเหล่านั้น มักซ่อนภัยร้ายจากแพลตฟอร์มที่อาจเป็นการหลอกลวง หนึ่งในนั้นคือ Trustfinance ซึ่งกลายเป็นที่ถกเถียงรุนแรงทั้งในระดับสากลและในไทย ด้วยข้อครหาเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

บทความนี้จึงมุ่งวิเคราะห์ลึกซึ้งถึงประเด็นร้อนที่ Trustfinance กำลังเผชิญ โดยเฉพาะการฉ้อโกง การถอนเงินที่ติดขัด และการขาดการควบคุมจากหน่วยงานรัฐ เราจะสำรวจประวัติบริษัท รีวิวจากผู้ใช้จริง และคำเตือนจากผู้กำกับดูแล เพื่อให้นักลงทุนไทยตื่นตัวกับความเสี่ยงที่อาจรออยู่ การรู้เท่าทันและมีกลยุทธ์ป้องกัน จะช่วยรักษาทุนของคุณจากกับดักอย่าง Trustfinance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Trustfinance คืออะไรกันแน่? การวิเคราะห์ข้อมูลบริษัทและข้อมูลทางการ
Trustfinance ประกาศตัวว่าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ใช้ซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายได้สะดวก แต่เมื่อขุดลึกข้อมูลสาธารณะและตรวจสอบอย่างละเอียด จะพบจุดบอดและความขัดแย้งหลายอย่างที่ทำให้เกิดคำถามใหญ่หลวงเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและสถานะทางกฎหมายของมัน

ตัวอย่างเช่น จากการสืบค้นในฐานข้อมูล UK Companies House พบนิติบุคคลที่มีชื่อคล้ายกัน แต่รายละเอียดกิจการที่บันทึกไว้กลับไม่ตรงกับภาพลักษณ์ของ Trustfinance ในฐานะผู้ให้บริการลงทุนสินทรัพย์การเงินขั้นสูง การจดทะเบียนในประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ได้แปลว่ามันได้รับอนุมัติให้จัดการเงินทุนหรือค้าหลักทรัพย์โดยไม่มีผู้กำกับดูแลที่เหมาะสม นอกจากนี้ แหล่งข้อมูลอย่าง Crunchbase อาจให้ภาพรวมเบื้องต้น แต่ขาดรายละเอียดสำคัญเรื่องการดำเนินงาน การตรวจสอบ และบัญชีที่เปิดเผย ซึ่งเป็นหัวใจของแพลตฟอร์มที่น่าไว้วางใจ ความคลุมเครือเหล่านี้ยิ่งน่ากังวล เมื่อแพลตฟอร์มโฆษณาผลตอบแทนสูงลิ่วแบบไม่สมจริงหรือวิธีลงทุนที่ดูเรียบง่ายแต่ไร้ความโปร่งใส
ความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลบริษัท
นักลงทุนทุกคนควรหมั่นตรวจสอบข้อมูลบริษัทอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่ตั้ง กรรมการ หรือใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน ข้อมูลเหล่านี้หาได้จากแหล่งอย่างเป็นทางการ เช่น UK Companies House สำหรับบริษัทในสหราชอาณาจักร หากแพลตฟอร์มปิดบังข้อมูลหรืออ้างใบอนุญาตที่หาหลักฐานไม่ได้ นั่นคือสัญญาณแดงที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงจากการหลอกลวง โดยเฉพาะในบริบทที่การลงทุนดิจิทัลเต็มไปด้วยกับดัก
บทวิจารณ์จากผู้ใช้และหลักฐานที่ชัดเจน: เหตุใด Trustfinance จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นการหลอกลวง?
ข้อกล่าวหาต่อ Trustfinance ไม่ใช่แค่ข่าวลือ แต่มาจากเรื่องจริงของผู้ใช้จำนวนมากและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่พบความผิดปกติ รีวิวเหล่านี้เผยรูปแบบการทำงานที่เข้าข่ายฉ้อโกง ซึ่งนักลงทุนไทยจำเป็นต้องรู้เพื่อหลีกเลี่ยง

จากประสบการณ์ผู้ใช้จริง สามารถเห็นภาพชัดเจนว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ทำให้หลายคนสูญเสียเงินทุนโดยไม่คาดคิด และนี่คือส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่าการลงทุนในแพลตฟอร์มนี้เสี่ยงเกินควร
การวิเคราะห์ความคิดเห็นเชิงลบจากแพลตฟอร์มอย่าง Trustpilot
เว็บไซต์ Trustpilot ซึ่งรวบรวมรีวิวจากผู้บริโภคทั่วโลก กลายเป็นเวทีที่ผู้ใช้ Trustfinance ระบายความทุกข์จำนวนมาก ความเห็นเชิงลบเหล่านี้มักชี้ปัญหาหลักดังนี้
- ปัญหาการถอนเงิน: ข้อร้องเรียนยอดฮิตคือการถอนเงินที่ล้มเหลว ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ล่าช้าแบบไม่มีที่สิ้นสุด หรือบัญชีถูกปิดกั้นกะทันหัน
- การอายัดเงินทุน: ผู้ใช้หลายรายพบว่าทุนถูก “ล็อก” ในระบบ โดยแพลตฟอร์มอ้างค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหรือขั้นตอนยืนยันที่ยุ่งยาก บางครั้งยังหลอกให้โอนเงินเพิ่มเพื่อปลดล็อก ซึ่งเป็นกลอุบายคลาสสิกของมิจฉาชีพ
- บริการลูกค้าที่ห่วย: เมื่อเกิดปัญหา การติดต่อทีมสนับสนุนมักไร้ผล ได้รับคำตอบแบบขอไปทีหรือเงียบสนิทไปเลย การสื่อสารที่ขาดหายนี้ยิ่งตอกย้ำความไม่น่าเชื่อถือ
รีวิวจาก Trustpilot และแหล่งอื่นๆ แสดงให้เห็นรูปแบบที่ชัดเจนของการหลอกลวง ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การรีดเงินจากผู้ใช้โดยไม่คิดคืนทุน ทำให้ Trustfinance ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามจริงจัง
คำเตือนจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินและสื่อ
นอกจากรีวิวผู้ใช้ Trustfinance ยังถูกเตือนและขึ้นบัญชีดำจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งยืนยันสถานะผิดกฎหมายและอันตรายของมัน
- ขาดการกำกับดูแล: หน่วยงานหลายแห่งประกาศว่า Trustfinance ไม่ได้รับอนุมัติในเขตอำนาจของตน ทำให้ขาดการคุ้มครอง หากสูญเงิน ผู้ใช้ไม่มีทางพึ่งกฎหมาย
- การอ้างสิทธิ์ปลอม: มันอาจโกหกว่ารับการกำกับจากหน่วยงานหลวมๆ หรือใช้ชื่อปลอมเพื่อสร้างภาพลวง
- คำเตือนเฉพาะ: แม้ข้อมูล Cayman Finance อาจเกี่ยวข้องกว้างๆ แต่หน่วยงานอย่าง FCA ในอังกฤษหรือที่คล้ายกันในเอเชีย ได้เตือนเกี่ยวกับบริษัทไร้ใบอนุญาตแบบนี้ โดย Trustfinance มักติดรายชื่อ นักลงทุนควรเช็คเว็บหน่วยงานในประเทศตัวเองและที่แพลตฟอร์มอ้าง เพื่อยืนยัน
หลักฐานทั้งจากผู้ใช้และหน่วยงาน ทำให้ชัดเจนว่า Trustfinance เต็มไปด้วยความเสี่ยงและน่าจะเป็นการหลอกลวง นักลงทุนไทยควรถอยห่างทันทีเพื่อความปลอดภัย
คู่มือป้องกันการหลอกลวงสำหรับนักลงทุนไทย: วิธีการระบุแพลตฟอร์มที่คล้ายกับ Trustfinance?
การฉ้อโกงทางการเงินแพร่หลายมาก และแพลตฟอร์มคล้าย Trustfinance มักใช้ลูกเล่นเดิมๆ ในการล่อลวง การรู้จักสัญญาณเตือนเหล่านี้จึงสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทยที่อาจถูกเล็ง
ด้วยการเติบโตของเทคโนโลยี การหลอกลวงก็ซับซ้อนขึ้น แต่ด้วยความรู้พื้นฐาน คุณสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลโกงทั่วไปในการระบุแพลตฟอร์มการลงทุนที่ผิดกฎหมาย
ผู้ไม่หวังดีมักอาศัยเล่ห์เหลี่ยมเพื่อดึงเหยื่อ แพลตฟอร์มผิดกฎหมายมักมีลักษณะเหล่านี้
- สัญญาผลตอบแทนสูงเกินจริง: โฆษณาว่ากำไรแน่นอน 10-20% ต่อเดือนหรือรวยเร็วในวันเดียว ซึ่งขัดหลักลงทุนจริงที่ผลสูงต้องเสี่ยงสูงและไร้การรับประกัน
- ชักชวนผ่านเครือข่าย: ใช้เพื่อนหรือโซเชียลมีเดีย โดยมีคนที่ถูกหลอกแล้วช่วยโปรโมต หรือ influencer ปลอมเสนอโบนัสแนะนำ เพื่อสร้างโซ่ลูกโซ่
- เน้นชวนมากกว่าลงทุน: แทนกลยุทธ์ชัดเจน จะโฟกัสการหาสมาชิกใหม่และกำไรจากการชวน ซึ่งคือลักษณะ Ponzi Scheme
- แอปน่าสงสัย: ให้ดาวน์โหลดแอปนอก App Store หรือ Google Play ที่รีวิวแย่ ซึ่งอาจมีช่องโหว่หรือออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูล
- กดดันให้รีบ: สร้างความเร่งด่วนอย่าง “โอกาสสุดท้าย” เพื่อให้ตัดสินใจโดยไม่คิด
- ข้อมูลมืดมน: ซ่อนรายละเอียดบริษัท ผู้บริหาร หรือแผนลงทุนที่ตรวจสอบไม่ได้
การสังเกตจุดเหล่านี้ช่วยกรองแพลตฟอร์มเสี่ยงได้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะในไทยที่โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักของการหลอกลวง
ช่องทางการตรวจสอบอย่างเป็นทางการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ไทย)
สำหรับคนไทย การเช็คใบอนุญาตเป็นกุญแจสำคัญ ก.ล.ต. คือหน่วยงานหลักที่ดูแลธุรกิจหลักทรัพย์และอนุพันธ์
ขั้นตอนตรวจสอบ:
- เข้าเว็บ ก.ล.ต.: ไปที่ www.sec.or.th
- ค้นรายชื่อผู้ได้รับอนุญาต: หาเมนู “รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต” หรือคล้ายๆ
- ใส่ชื่อ: พิมพ์ชื่อแพลตฟอร์มหรือผู้ชักชวนเพื่อเช็ค
- ดูรายละเอียดใบอนุญาต: ถ้าพบ ให้ยืนยันว่าครอบคลุมบริการที่เสนอ เช่น จัดการกองทุนหรือค้าหลักทรัพย์
- เช็ครายชื่อดำ: ดู Investor Alert List สำหรับบริษัทหรือคนที่ไร้ใบอนุญาตหรือมีพฤติกรรมน่าสงสัย
ถ้าไม่มีชื่อในฐานข้อมูลหรือติดบัญชีดำ อย่าลงทุนเด็ดขาด ช่องทางนี้ช่วยปกป้องนักลงทุนไทยจากภัยหลอกลวงได้จริง
หากโชคร้ายตกเป็นเหยื่อ: ขั้นตอนการขอความช่วยเหลือและการแจ้งความในประเทศไทย
ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวโดน Trustfinance หรือแพลตฟอร์มคล้ายๆ หลอก สิ่งสำคัญคือลงมือทันทีและเป็นขั้นตอน เพื่อเพิ่มโอกาสกู้เงินคืนและจับผู้ร้าย ในไทยมีหน่วยงานช่วยเหลือชัดเจน
การตอบสนองเร็วจะลดความเสียหาย และช่วยให้การสืบสวนง่ายขึ้น โดยเริ่มจากหยุดเลือดไหลก่อน
การหยุดความเสียหายทันทีและการรวบรวมหลักฐาน
เมื่อรู้ว่าถูกหลอก ต้องหยุดทุกอย่างและเก็บหลักฐานให้ครบ
- หยุดโอนเงิน: ติดธนาคารทันทีเพื่อยกเลิกธุรกรรมที่ค้าง
- รวบรวมหลักฐาน: เก็บทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น
- ธุรกรรม: สลิปโอนเงิน ยอดบัญชี หรือบันทึกคริปโต
- การสื่อสาร: แชทจาก Line Telegram หรืออีเมล
- ภาพหน้าจอ: เว็บแอป โปรไฟล์ผู้หลอก หรือโฆษณา
- ข้อมูลแพลตฟอร์ม: ชื่อ เบอร์ อีเมล ลิงก์
- บัญชีรับเงิน: ชื่อบัญชีธนาคารหรือกระเป๋าคริปโต
จัดเรียงหลักฐานตามเวลา จะช่วยให้แจ้งความและสืบสวนราบรื่น โดยเฉพาะคดีออนไลน์ที่หลักฐานดิจิทัลสำคัญมาก
ขั้นตอนการแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลาง (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย
ในไทย มีทางแจ้งความหลายช่องสำหรับคดีหลอกลวงการเงิน
- แจ้งออนไลน์ (แนะนำ):
- เว็บตำรวจ: ใช้ www.thaipoliceonline.com สำหรับคดีเทคโนโลยีและการเงิน
- กรอกและแนบ: ใส่รายละเอียด แนบหลักฐาน
- รอติดต่อ: เจ้าหน้าที่จะโทรสอบเพิ่ม
- แจ้งสถานีท้องที่:
- ไปสถานีใกล้บ้านหรือที่เกิดเหตุ
- นำหลักฐาน: ให้เจ้าหน้าที่ดู
- เล่ารายละเอียด: อธิบายตามลำดับ อาจถูกสอบเพิ่ม
- หน่วยเฉพาะ:
- บก.ปอศ. (ECD): สำหรับคดีเศรษฐกิจซับซ้อน เชี่ยวชาญการเงิน
- สคบ.: ช่วยไกล่เกลี่ยผู้บริโภค แต่สำหรับฉ้อโกงหลักคือแจ้งตำรวจ
เคล็ดลับ:
- รีบทำ: ยิ่งเร็ว ยิ่งตามเงินคืนง่าย
- อย่าโอนเพิ่ม: หลีกเลี่ยงกับดัก “ค่าธรรมเนียม” จากมิจฉาชีพ
- ระวังหลอกซ้ำ: อย่าจ่ายค่าบริการกู้เงินคืนให้บุคคลอื่น ใช้แค่วิถีทางการ
การแจ้งความถูกต้องช่วยปกป้องสิทธิและต่อสู้กับอาชญากรรมเหล่านี้
สรุป: ปกป้องการลงทุนในประเทศไทยของคุณ เริ่มต้นจากการเลือกอย่างรอบคอบ
สรุปจากทุกข้อมูล Trustfinance คือแพลตฟอร์มเสี่ยงสูงที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงกว้างขวาง ปัญหาถอนเงิน คำเตือนจากหน่วยงาน และรีวิวแย่ๆ ล้วนบอกชัดว่านักลงทุนควรเลี่ยง
ในไทย การรักษาทุนเริ่มจากความรอบคอย อย่าหลงโฆษณากำไรสูงหรือลงทุนง่ายๆ ที่ขาดโปร่งใส ใช้เวลาศึกษา เช็คบริษัท และยืนยันการกำกับจาก ก.ล.ต. ก่อนเสมอ
ถ้าถูกหลอก รวบหลักฐานและแจ้ง บก.ปอศ. หรือออนไลน์ทันที การรีบช่วยลดเสียหาย
ลงทุนปลอดภัยต้องมีข้อมูลชัด กฎเข้ม และรู้เสี่ยง เลือกแพลตฟอร์มที่ ก.ล.ต. รับรอง เพื่อคุ้มครองตามกฎหมาย ขอให้ทุกท่านลงทุนฉลาดเพื่อความมั่นคงทางการเงิน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Trustfinance ในประเทศไทยมีใบอนุญาตทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? ฉันควรตรวจสอบได้อย่างไร?
จากการตรวจสอบข้อมูล Trustfinance ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจทางการเงินที่ถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. ไทย) หรือหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินอื่น ๆ ในประเทศไทย คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ทางการของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th)
หากฉันไม่สามารถถอนเงินที่ลงทุนใน Trustfinance ได้ ฉันสามารถขอความช่วยเหลือจากใครในประเทศไทย?
หากคุณประสบปัญหาในการถอนเงิน คุณควรรวบรวมหลักฐานทั้งหมด (สลิปโอนเงิน, แชท, ภาพหน้าจอ) และแจ้งความออนไลน์ผ่าน www.thaipoliceonline.com หรือไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรึกษากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้โดยตรง
ตำรวจสอบสวนกลาง (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการหลอกลวงการลงทุนประเภท Trustfinance หรือไม่?
ตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปอศ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการเตือนภัยและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการหลอกลวงการลงทุนที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง พวกเขาแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. และไม่หลงเชื่อคำชักชวนที่สร้างแรงกดดัน คุณสามารถติดตามข่าวสารและคำแนะนำได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกเหนือจาก Trustfinance แล้ว ยังมีกลโกงการลงทุนประเภทใดบ้างที่คนไทยมักตกเป็นเหยื่อ?
คนไทยมักตกเป็นเหยื่อของกลโกงหลายประเภท เช่น แชร์ลูกโซ่ (Ponzi schemes), การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีปลอม, การหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันปลอม, การหลอกให้ลงทุนใน Forex ที่ไม่มีใบอนุญาต, หรือการหลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Romance Scams) ซึ่งทั้งหมดนี้มักมีลักษณะร่วมคือการให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติและมีการชักชวนแบบปากต่อปาก
ฉันจะป้องกันตัวเองในประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการเจอแพลตฟอร์มหลอกลวงที่คล้ายกับ Trustfinance ได้อย่างไร?
วิธีที่ดีที่สุดคือ:
- ตรวจสอบใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เสมอ
- อย่าหลงเชื่อผลตอบแทนที่สูงเกินจริง
- ระวังการชักชวนจากคนแปลกหน้าหรือผ่านโซเชียลมีเดีย
- ศึกษาข้อมูลบริษัทอย่างละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
- อย่ารีบตัดสินใจลงทุนภายใต้แรงกดดัน
แอปพลิเคชันของ Trustfinance ในประเทศไทยปลอดภัยหรือไม่? ควรดาวน์โหลดและใช้งานหรือไม่?
เนื่องจาก Trustfinance เป็นแพลตฟอร์มที่มีข้อกล่าวหาเรื่องการหลอกลวงและไม่มีการกำกับดูแลที่ถูกต้องในประเทศไทย จึงไม่แนะนำให้ดาวน์โหลดหรือใช้งานแอปพลิเคชันของพวกเขา การดาวน์โหลดแอปที่ไม่น่าเชื่อถืออาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์ของคุณ
มีแพลตฟอร์มการลงทุนทางเลือกใดบ้างในประเทศไทยที่ได้รับการกำกับดูแลและน่าเชื่อถือ?
มีแพลตฟอร์มการลงทุนที่ได้รับการกำกับดูแลและน่าเชื่อถือจำนวนมากในประเทศไทย เช่น บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์หุ้น), บริษัทจัดการกองทุนรวม, ธนาคารพาณิชย์, หรือผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. คุณควรเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่มีรายชื่ออยู่ในเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. เท่านั้น
เพื่อนของฉันแนะนำ Trustfinance iux นี่เป็นแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Trustfinance หรือไม่?
บ่อยครั้งที่แพลตฟอร์มหลอกลวงจะเปลี่ยนชื่อ หรือใช้ชื่อที่คล้ายคลึงกัน เช่น “Trustfinance iux” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบหรือเพื่อสร้างความสับสน อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหากชื่อมีส่วนประกอบของ “Trustfinance” และมีลักษณะการดำเนินงานที่น่าสงสัย ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันหรือเครือข่ายเดียวกันของการหลอกลวง ควรหลีกเลี่ยงและตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกัน
หากฉันได้ลงทุนเงินไปแล้วใน Trustfinance กฎหมายไทยจะช่วยฉันติดตามเงินคืนได้หรือไม่?
การติดตามเงินคืนจากการหลอกลวงเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่กฎหมายไทยมีกลไกในการดำเนินคดีอาญาและแพ่ง คุณมีสิทธิ์แจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีอาญาฐานฉ้อโกง และสามารถฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกคืนความเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มีและความสามารถในการติดตามทรัพย์สินของผู้กระทำผิด
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สามารถช่วยฉันแก้ปัญหา Trustfinance ได้หรือไม่?
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีบทบาทในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในด้านสินค้าและบริการทั่วไป สำหรับกรณีการหลอกลวงทางการเงินโดยตรงหรือคดีอาญา การแจ้งความกับตำรวจและ ก.ล.ต. จะเป็นช่องทางหลักที่เหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม สคบ. อาจให้คำแนะนำเบื้องต้นหรือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ในบางกรณี